วิธีขับรถให้ประหยัดน้ำมันที่สุด
90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงประหยัดน้ำมันจริงหรือ?
ถ้ามองรถที่ออกแบบเพื่อจำหน่ายในบ้านเราโดยเฉพาะจะพบว่ามีการเชื่อมโยงกับกฎหมายหรือความเร็วที่กำหนดคือรถจะถูกออกแบบมาให้ได้แรงส่วนใหญ่ของทั้งหมดออกมาใช้งานมากที่สุดในช่วงความเร็วดังกล่าวคือในช่วง 60-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ถ้าหันไปมองรถนำเข้าจากต่างปะเทศที่กฎหมายเขากำหนดความเร็วอื่นเช่น 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ค่าแรงที่นำออกมาใช้งานที่มากที่สุดและประหยัดที่สุดดังกล่าวก็จะไปอยู่ที่ช่วงความเร็ว 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นต้น ยิ่งยุคน้ำมันแพงนี้เรื่องการแข่งขันด้านความประหยัดกำลังรุนแรงถ้าท่านปรับเพิ่มข้อกำหนดความเร็วรถขึ้นมีรึที่บริษัทผู้ผลิตเขาจะไม่ออกแบบหรือผลิตตาม(ความจริงประเทศอื่นหลายๆประเทศเขาทำมานานแล้ว)
ที่มา : one2Car.com
..........................................
ขับรถถูกวิธี ประหยัดน้ำมัน
น้ำมันมีราคาเพิ่มขึ้นไม่ใช้น้อย เราท่านรู้สึกกันได้อย่างชัดเจน แต่รายได้ จะเพิ่มขึ้นเหมือนราคาน้ำมันที่ขึ้นเอา..ขึ้นเอา หรือเปล่า ? ….ใครตอบได้บ้าง !
ต่อไปนี้เป็นแนวทางที่จะช่วยให้ท่านประหยัดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไปได้บ้างไม่มากก็น้อย ด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังนี้
1. ควรมีการวางแผนเดินทางที่ดีหลีกเส้นทางที่มีจราจรติดขัด,ไม่ขับอ้อมจนมากเกินไป ไม่หลงทาง และไม่ขับเลยจากจุดหมายปลายทางเท่านี้ก็ลดการสูญเสียน้ำมันโดยเปล่าประโยชน์ไปได้มากแล้ว
2. ตรวจเช็คเครื่องปรับอากาศความดันลมยางเสมอ ๆ ยางที่มีลมยางอ่อนเกินไปจะทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น และยางมีอายุการใช้งานสั้น ในขณะเดียวกันหากลมยางแข็งเกินไปรถอาจเกาะถนนไม่ดี และยางก็มีอายุการใช้งานสั้นเช่นกัน
3. ตรวจเช็คเครื่องปรับอากาศอยู่เสมอ ๆ เช่นปริมาณน้ำยาทำความเย็น ความสกปรกของคอล์ยเย็น ฯลฯ เพื่อให้ระบบทำงานมีประสิทธิภาพพร้อมทั้งปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม เพราะถ้าปรับอุณหภูมิให้เย็นจัดเกินไปก็เป็นภาระให้เครื่องยนต์ทำงานหนักมากขึ้น ส่งผลให้อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงก็มากขึ้นไปด้วย
4. วิธีขับรถให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
– ไม่เร่งเครื่องขณะรถจอดอยู่นิ่ง ๆ เพราะเป็นการใช้น้ำมันโดยเปล่าประโยชน์
– ออกรถอย่างราบเรียบ ไม่ใช่ออกตัวแบบรถแข่ง และเปลี่ยนเกียร์ที่สูงขึ้นเมื่อถึงรอบที่กำหนด อย่าลากเกียร์
– พยายามขับรถด้วยความเร็วสม่ำเสมอ และไม่เหยียบเบรคโดยไม่จำเป็น
– เมื่อขับรถที่ความเร็วสูงขึ้น แรงต้านอากาศมีผลเป็นทวีคูณ ดังนั้นการขับรับรถเมื่อความเร็วสูงมาก ๆ รถก็จะกินน้ำมันมากขึ้นไปด้วย ตามปกติแล้ว ความเร็วที่ประหยัดน้ำมัน มักจะอยู่ในช่วง 80 – 100 กม./ชม.(รถยนต์แต่ละคันมีความเร็วที่ประหยัดสุดไม่เท่ากัน)
– เมื่อไม่ได้เปลี่ยนเกียร์ ควรเอาเท้าออกจากคันเหยียบคลัทช์ เพราะนอกจากจะทำให้กินน้ำมันเพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้คลัทช์มีอายุการใช้งานสั้นด้วย
5. ดูแลรักษาเครื่องยนต์อยู่เสมอ ๆ ด้วยการตรวจเช็คและเปลี่ยนอะไหล่ตามที่ผู้ผลิตกำหนด ความบกพร่องของเครื่องยนต์นอกจากจะเป็นผลให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานสั้นลงแล้ว ก็จะเป็นผลให้เครื่องยนต์กินน้ำมันมากขึ้นด้วย อาทิเช่น
– ไส้กรองอากาศตัน เพราะทำให้การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ไม่มีประสิทธิภาพ
– น้ำมันหล่อลื่นเก่า ขาดคุณสมบัติการหล่อลื่น ฯลฯ
– ระบบระบายความร้อนบกพร่อง ทำให้เครื่องยนต์ไม่ได้ทำงานที่อุณหภูมิที่ผู้ผลิตออกแบบไว้
– หัวเทียนเสื่อมสภาพ ทำให้เชื้อเพลิงถูกเผาไหม้สมบูรณ์
– รอบเครื่องยนต์เดินเบาสูงกว่าที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ทำให้เครื่องยนต์ทำงานมากขึ้นดดยไม่จำเป็น
– ปรับตั้งการจุดระเบิดไม่ถูกต้อง ซึ่งจะทำให้การเผาไหม่ของเชื้อเพลิงไม่มีประสิทธิภาพ
6. บรรทุกสัมภาระเท่าที่จำเป็น นอกจากจะสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าที่ควรด้วย เพราะถ้าบรรทุกของไม่จำเป็น 25 กก. และวิ่งไป 50 กม. จะเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 20 ซีซี
7. หลีกเหลี่ยงสถาพถนนที่ไม่ดี สภาพถนนที่ไม่ดีทำให้สูญเสียน้ำมันเพิ่มขึ้น ดังนี้ ราดยางที่มีผิวเสียหาย ร้อยละ 15 ลูกรัง ร้อยละ 35 ทรายแห้ง ร้อยละ 45
8. หลีกเหลี่ยงการใช้เบรกโดยไม่จำเป็น ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน และอายุการใช้งานของเบรกสั้นลง
9. ปรับลมยางให้เหมาะสมตามมาตรฐาน ที่ผู้ผลิตรถยนต์แนะนำ หากความดันลมยางต่ำกว่ามาตรฐานทุกๆ 1 ปอนด์ ต่อตารางนิ้วจะสิ้นเปลืองน้ำมันร้อยละ 2
10. คาร์พูล (Car Pool) ทางเดียวกันไปด้วยกัน
– การเดินทางด้วยระบบคาร์พูลจะทำให้จำนวนรถยนต์ในถนนลดลง
– การจราจรดีขึ้น
– ใช้เวลาในการเดินทางลดลง
– คุณภาพอากาศบนถนนดีขึ้น
– ที่จอดรถมากขึ้น
– ค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางและบำรุงรักษารถยนต์ลดลง
11. ยังคงมีปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อการกินน้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์ แต่เท่าที่ได้กล่าวก็คือเป็นเรื่องหลัก ๆ ที่ท่านสามารถทำได้โดยไม่อยากเย็น และทำให้การใช้น้ำมันเป็นไปอย่างประหยัด
ที่มา ข้อมูลจาก :.ate.ac.th
.........................................................
10 บัญญัติ ประหยัดน้ำมัน
1. ขับรถไม่เกิน 90 ก.ม./ชม.
ความเร็วสูงสุดที่กฎหมายกำหนดไว้
ทางธรรมดา 90 กม./ชม.
ทางด่วน 110 กม./ชม.
มอเตอร์เวย์ 120 กม./ชม.
2. จอดรถไว้บ้าน โดยสารสาธารณะ
ถ้าผู้ใช้รถยนต์ร้อยละ 1 จากจำนวน 5 ล้านคัน หันมาใช้บริการรถสาธารณะ ด้วยระยะทาง 48 กม./วัน
ใน 1 ปี (260 วันทำงาน) จะประหยัดน้ำมัน 52 ล้านลิตร คิดเป็นค่าน้ำมัน 780 ล้านบาท
3. ไม่ขับก็ดับเครื่อง
การติดเครื่องยนต์จอดอยู่เฉยๆ เป็นเวลา 5 นาที
สิ้นเปลืองน้ำมันโดยเปล่าประโยชน์ 500 ซีซี
4. ทางเดียวกันไปด้วยกัน
ถ้าขับรถยนต์ 5 คัน ไปทางเดียวกัน ที่หมายใกล้กัน ระยะทาง 48 กม./คัน (ไป-กลับ)
ใน 1 ปี (260 วันทำงาน) จะสิ้นเปลืองน้ำมัน 5,200 ลิตร คิดเป็นค่าน้ำมัน 78,000 บาท
ถ้าร้อยละ 1 ของรถยนต์ 5 ล้านคัน ใช้ Car Pool สลับขับ 5 คน ต่อรถ 1 คัน
ใน 1 ปี จะประหยัดน้ำมันได้ 41.6 ล้านลิตร คิดเป็นเงิน 624 ล้านบาท
5. หลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วน
ถ้ารถติดเพียงร้อยละ 1 ของ จำนวนรถยนต์ 5 ล้านคัน ในวันทำงานทุกวัน และในบางเสาร์-อาทิตย์ ใน 1 ปี (330 วัน/ปี)
จะสิ้นเปลืองน้ำมัน 12.4 ล้านลิตร คิดเป็นค่าน้ำมัน 186 ล้านบาท
6. ใช้โทรศัพท์-โทรสารเลี่ยงรถติด
ใช้อุปกรณ์สื่อสารแทนการเดินทาง เช่น ส่งหนังสือระหว่างหน่วยงาน
หากเร่งด่วนก็ใช้วิธีส่งทางโทรสาร
หากเป็นเอกสารสำคัญก็ใช้วิธีรวบรวมเอกสารแล้วส่งพร้อมกัน
หนังสือเวียนที่ไม่สำคัญก็ใช้วิธีส่ง E-Mail หรือส่งไปรษณีย์
7. วางแผนก่อนเดินทาง
ถ้าไม่ศึกษาเส้นทางก่อนเดินทาง และขับรถหลงทาง 10 นาที
จะสิ้นเปลืองน้ำมัน 500 ซีซี คิดเป็นค่าน้ำมัน 7.50 บาท
ถ้ารถยนต์ 5 ล้านคัน ขับหลงทาง เฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง ใน 1 ปี
จะสิ้นเปลืองน้ำมัน 30 ล้านลิตร คิดเป็นค่าน้ำมัน 450 ล้านบาท
8. ลมยางต้องพอดี ไส้กรองต้องสะอาด
ความดันลมยางอ่อนกว่ามาตรฐาน 1 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ถ้าขับทุกวันเฉลี่ยวันละ 48 กม. ใน 1 เดือน
รถยนต์ – สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 2.4 ลิตร
รถจักรยานยนต์ – สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.2 ลิตร
รถบรรทุก – สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 4.2 ลิตร
ถ้าร้อยละ 30 ของรถแต่ละประเภท ละเลยเช่นนี้บ่อยๆ รวมเป็น 30 วัน/ปี
จะสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 5.8 ล้านลิตร
คิดเป็นเงิน 87 ล้านบาท
ถ้าไส้กรองสะอาด จะช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันวันละ 65 ซีซี
ควรทำความสะอาดทุก 2,500 กม.
ควรเปลี่ยนทุก 20,000 กม.
9. ไม่บรรทุกของเกินจำเป็น
หากขับรถโดยบรรทุกของที่ไม่จำเป็น ประมาณ 10 ก.ก. เป็นระยะทาง 25 ก.ม.
สิ้นเปลืองน้ำมัน 40 ซีซี
ถ้าร้อยละ 10 ของรถยนต์ทั่วประเทศ 5 ล้านคัน ขับรถโดยบรรทุกสิ่งของที่ไม่จำเป็น
ใน 1 ปี จะสิ้นเปลืองน้ำมัน 7.3 ล้านลิตร คิดเป็นเงิน 10.95 ล้านบาท
10. ตรวจเช็คเครื่องยนต์เป็นประจำ
เปลี่ยนไส้กรองตามกำหนด
เปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นทุก 5,000 กม.
ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง และน้ำในแบตเตอรี่
ตรวจสอบระดับน้ำป้อนหม้อน้ำ
ปรับปรุงสมรรถนะรถยนต์ให้ดีตลอดเวลา ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ ร้อยละ 3- 9
ที่มา : คู่มือรวมพลังหยุดรถซดน้ำมัน – PDF
สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน
......................................................
รู้จักวิธีประหยัดน้ำมันง่าย ๆ แค่ …12 วิธี
ข้อปฏิบัติ ประโยชน์ที่ได้รับ
1.เติมน้ำมันหลัง 4 ทุ่ม หรือก่อน 9 โมงเช้าเสมอ : อุณหภูมิเย็นน้ำมันหดตัวจะได้ปริมาณเพิ่มขึ้น 2%
2.เติมน้ำมันแค่หัวจ่ายตัดพอแล้ว : ถ้าเติมจนเต็มปรี่ ร้อนๆ น้ำมันจะขยายตัวระเหยทิ้งที่รูระบาย
3.อุ่นเครื่องซัก 1 นาทีในหน้าร้อน และ 3 นาทีในหน้าหนาว : เครื่องจะได้ไม่ใช้กำลังฉุดมากและการหล่อลื่นจะสมบูรณ์ขึ้น
4.ค่อยๆ ออกตัวเมื่อรถจอดนิ่งที่ 1-2 พันรอบ : ได้ความนิ่มนวล ประหยัด และลดการสึกหรอของเครื่อง
5.ควรใช้เกียร์สูงขึ้นเมื่อรถวิ่งได้ 2,500 รอบขึ้นไป : การลากเกียร์จะทำให้ชุดเกียร์ทำงาน จนอายุการใช้งานจะสั้น
6.เครื่อง 2.0 CC ขึ้นไปความเร็วคงที่ๆ ประหยัดคือ 110 Km/h: รักษาเสถียรภาพความเร็วทำให้กินน้ำมันน้อยที่สุดขณะรถวิ่ง
7.เครื่องต่ำกว่า 1.6 CC ความเร็วคงที่ๆ ประหยัดคือ 90 Km/h : รักษาเสถียรภาพความเร็วทำให้กินน้ำมันน้อยที่สุดขณะรถวิ่ง
8.พักรถซัก 15 นาที เมื่อขับเกิน 4 ชม. เพื่อให้ความร้อนลด : ให้น้ำมันในระบบคลายความร้อนกลับมามีคุณสมบัติที่ดีอีกครั้ง
9.เกียร์ถอยกินน้ำมันมากสุด ควรค่อยๆ ถอย ไม่ต้องเร่ง : เกียร์ถอยใช้อัตราทดและใช้แรงฉุดมากกว่าทุกเกียร์
10.ก่อนถึงปลายทางซัก 500 ม. ให้ปิดแอร์ลดภาระเครื่อง : เป่าลมไล่ความชื้นในตู้แอร์ ไล่เชื้อราที่สะสมอยู่ในความชื้นด้วย
11.เช็คลมยางให้สม่ำเสมอทุกๆ 2 อาทิตย์ : ลมยางอ่อนวิ่งได้ช้า+ขอบยางสึกมากยางหมดดอกก่อนกำหนด
12.เก็บสัมภาระหรือของหนักๆ ออกจากรถเพื่อลดน้ำหนัก : เพิ่มน้ำหนักรถทำให้รถกินน้ำมันเพิ่ม 20% ตามระยะทางที่วิ่ง
..................................................
25 วิธีประหยัดน้ำมัน
1. ตรวจสอบลมยางเป็นประจำ เพราะยางที่อ่อนเกินไปนั้น ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่ายาง ที่มีปริมาณลมยางตามที่มาตรฐานกำหนด
2.สับเปลี่ยนยางตรวจตั้งศูนย์ล้อตามกำหนดจะช่วยประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกมาก
3.ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งเมื่อต้องจอดรถนาน ๆ แค่จอดรถติดเครื่องทิ้งไว้ 10 นาที ก็เสียน้ำมัน ฟรี ๆ 200 ซีซี
4.ไม่ควรติดเครื่องทิ้งไว้เมื่อจอดรถ ให้ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งที่ขึ้นของ ลงของ หรือคอยคน เพราะการติดเครื่องทิ้งไว้เปลืองน้ำมันและสร้างมลพิษอีกด้วย
5.ไม่ออกรถกระชากดังเอี๊ยด การออกรถกระชาก 10 ครั้ง สูญเสียน้ำมันไปเปล่า ๆ ถึง 100 ซีซี น้ำมันจำนวนนี้รถสามารถวิ่งได้ไกล 700 เมตร
6.ไม่เร่งเครื่องยนต์ตอนเกียร์ว่างอย่างที่เรียกกันติดปากว่า เบิ้ลเครื่อง การกระทำดังกล่าว10ครั้งสูญน้ำมันถึง50ซีซีปริมาณน้ำมันขนาดนี้รถวิ่งไปได้ตั้ง350 เมตร
7.ตรวจตั้งเครื่องยนต์ตามกำหนด ควรตรวจเช็คเครื่องยนต์สม่ำเสมอ เช่น ทำความสะอาดระบบไฟจุดระเบิด เปลี่ยนหัวคอนเดนเซอร์ ตั้งไฟแก่อ่อนให้พอดีจะช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 10%
8.ไม่ต้องอุ่นเครื่อง หากออกรถและขับช้า ๆ สัก 1-2 กม.แรก เครื่องยนต์จะอุ่นเอง ไม่ต้องเปลืองน้ำมันไปกับการอุ่นเครื่อง
9.ไม่ควรบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด เพราะเครื่องยนต์จะทำงานตามน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น หากบรรทุกหนักมาก จะทำให้เปลืองน้ำมันและสึกหรอสูงขึ้น
10.ใช้ระบบการใช้รถร่วมกัน หรือคาร์พูล (Car pool) ไปไหนมาไหน ที่หมายเดียวกัน ทางผ่านหรือใกล้เคียงกัน ควรใช้รถคันเดียวกัน
11.เดินทางเท่าที่จำเป็นจริง ๆ เพื่อประหยัดน้ำมัน บางครั้งเรื่องบางเรื่องอาจจะติดต่อกันทางโทรศัพท์ก็ได้ ประหยัดน้ำมัน ประหยัดเวลา
12.ไปซื้อของหรือไปธุระใกล้บ้านหรือใกล้ๆทำงานอาจจะเดินหรือใช้จักรยานบ้างไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ทุกครั้ง เป็นการออกกำลังกายและประหยัดน้ำมันด้วย
13.ก่อนไปพบใครควรโทรศัพท์ไปถามก่อนว่าเขาอยู่หรือไม่ จะได้ไม่เสียเที่ยว ไม่เสียเวลา ไม่เสียน้ำมันไปโดยเปล่าประโยชน์
14.สอบถามเส้นทางที่จะไปให้แน่ชัด หรือศึกษาแผนที่ให้ดี จะได้ไม่หลง ไม่เสียเวลา ไม่เปลืองน้ำมันในการวนหา
15. ควรใช้โทรศัพท์ โทรสาร ไปรษณีย์ อินเตอร์เน็ต หรือใช้บริการส่งเอกสาร แทนการเดินทางด้วยตัวเอง เพื่อประหยัดน้ำมัน
16.ไม่ควรเดินทางโดยไม่ได้วางแผนการเดินทาง ควรกำหนดเส้นทาง และช่วงเวลาการเดินทางที่เหมาะสมเพื่อประหยัดน้ำมัน
17หมั่นศึกษาเส้นทางลัดเข้าไว้ ช่วยให้ไม่ต้องเดินทางยาวนาน ไม่ต้องเผชิญปัญหาจราจร ช่วยประหยัดทั้งเวลาและประหยัดน้ำมัน
18.ควรขับรถด้วยความเร็วคงที่ เลือกขับที่ความเร็ว 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ 2,000-2,500 รอบเครื่องยนต์ ความเร็วระดับนี้ ประหยัดน้ำมันได้มากกว่า
19.ไม่ควรขับรถลากเกียร์ เพราะการลากเกียร์ต่ำนาน ๆ จะทำให้เครื่องยนต์หมุนรอบสูงกินน้ำมันมาก และเครื่องยนต์ร้อนจัดสึกหรอง่าย
20.ไม่ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งที่จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น เช่น การทำให้เกิดการต้านลมขณะวิ่ง หรือทำให้เครื่องยนต์ ไม่สามารถถ่ายเทความร้อนได้ดี
21.ไม่ควรใช้น้ำมันเบนซินที่ออกเทนสูงเกินความจำเป็นของเครื่องยนต์เพราะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยเปล่าประโยชน์
22. หมั่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรองน้ำมันเครื่อง ไส้กรองอากาศ ตามระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อประหยัดน้ำมัน
23.สำหรับรถเครื่องยนต์เบนซิน ควรเลือกเติมน้ำมันเบนซินให้ถูกชนิด ถูกประเภท โดยเลือก ตามค่าออกเทนที่เหมาะสมกับรถแต่ละยี่ห้อ (สังเกตจากฝาปิดถังน้ำมันด้านใน หรือรับคู่มือที่ปั๊มน้ำมันใกล้บ้าน)
24.ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศตลอดเวลา ยามเช้า ๆ เปิดกระจกรับความเย็นจากลม ธรรมชาติบ้างก็สดชื่นดี ประหยัดน้ำมันได้ด้วย
25.ไม่ควรเร่งเครื่องปรับอากาศในรถอย่างเต็มที่จนเกินความจำเป็นไม่เปิดแอร์แรง ๆ จนรู้สึก หนาวเกินไป เพราะสิ้นเปลืองพลังงาน
ที่มา — 108 วิธีประหยัดพลังงาน … สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
...................................................
9 วิธีประหยัดน้ำมัน
สถานการณ์สงครามระหว่างอิรักกับสหรัฐฯ และพันธมิตร มีผลทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งขึ้นถึงระดับเกือบ 40 ดอลล่าร์ ต่อบาเรล รัฐบาลได้มีนโยบายตรึงราคาน้ำมันไว้ เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยนำเงินจากกองทุนน้ำมันมาชดเชยราคาประมาณลิตรละ 3 บาท ซึ่งก็คือผู้ใช้น้ำมันเป็นหนี้กองทุนอยู่ เมื่อสถานการณ์เป็นปกติผู้ใช้น้ำมันก็ต้องผ่อนส่งเงินให้กับกองทุนหน ทางที่จะเป็นประโยชน์แก่ตนเองและประเทศก็คือการรู้จักประหยัดพลังงาน ประหยัดน้ำมัน ทั้งในวันนี้และวันหน้า โครงการรวมพลังหาร 2 ขอแนะนำ 9 วิธีประหยัดน้ำมัน “ลดพลังงาน เพิ่มพลังเงิน” ได้ดังนี้
1. ขับรถในความเร็วที่กฎหมายกำหนด หากขับรถด้วยความเร็ว 90 กม./ชม. แทนการขับรถด้วยความเร็ว 110 กม./ชม. จะประหยัดน้ำมันได้ 25% คิดเป็นเงิน 800 บาทต่อเดือนต่อคัน หรือ 9,600 บาทต่อปีต่อคัน ถ้ารถยนต์จำนวน 7 ล้านคันทั่วประเทศ ขับรถตามกฎหมายกำหนด ประเทศชาติจะประหยัดเงินได้ไม่น้อยกว่า 67,000 ล้านบาท ต่อปี
2. ตรวจเช็คสภาพรถเป็นประจำ การตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ปีละ 1 ครั้ง สามารถประหยัดน้ำมันได้ 10% คิดเป็นเงินที่ ประชาชนประหยัดได้ 250 บาทต่อเดือนต่อคัน คิดเป็นจะประหยัดได้ถึงปีละ 3,000 บาท หากรถยนต์เบนซิน จำนวน 3 ล้านคันใน ประเทศไทย ดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว จะช่วยชาติจะประหยัดเงินได้ 9,000 ล้านบาทต่อปี
3. เติมลมยางไม่ขาดไม่เกิน ตรวจเช็คความดันลมยางสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือทุกๆระยะทาง 500 กิโลเมตร เพราะหากความดันลมยางต่ำกว่ามาตรฐานทุกๆ 1 ปอนด์ ต่อตารางนิ้ว จะสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มร้อยละ 2
4. หมั่นทำความสะอาดไส้กรองอากาศ ควรทำความสะอาดไส้กรองอากาศทุกๆ 2-4 สัปดาห์ หรือทุกๆ 2,500 กิโลเมตร เพราะถ้าไส้กรองไม่สะอาดแล้วจะทำให้รถยนต์กินน้ำมันเพิ่มขึ้นร้อยละ 10
5. ไม่ขับก็ดับเครื่อง ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งเมื่อต้องจอดรถเป็นเวลานาน เพราะการติดเครื่องยนต์จอดรถเป็นเวลาเพียง 10 นาที จะเสียน้ำมันไปฟรีๆ 200-400 ซีซี หรือเสียเงินราว 3.35-7.75 บาท
6. ไม่บรรทุกสิ่งของที่ไม่จำเป็น การบรรทุกสิ่งของที่ไม่จำเป็น นอกจากจะสิ้นเปลืองน้ำมันแล้ว ยังทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าที่ควรด้วย หากขับรถโดยบรรทุกของที่ไม่จำเป็น ประมาณ 10 กิโลกรัม เป็นระยะทาง 25 กิโลเมตร จะสิ้นเปลืองน้ำมัน 40 ซีซี
7. บำรุงรักษาเครื่องยนต์ การบำรุงรักษาเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดี โดยการเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นเมื่อถึงกำหนด และตรวจสอบรอยรั่วในระบบน้ำมันเชื้อเพลิง จะช่วยประหยัดน้ำมันประมาณร้อยละ 3-9
8. ทางเดียวกันไปด้วยกัน (คาร์พูล) ทางเดียวกันไปด้วยกัน หรือ “คาร์พูล” นอกจากจะทำให้จำนวนรถยนต์ในถนนลดลง การจราจรดีขึ้น ใช้เวลาในการเดินทางลดลงแล้ว ยังทำให้คุณภาพอากาศบนถนนดีขึ้น และผลผลอยได้สุดท้ายคือค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางและบำรุงรักษารถยนต์ลดลงอีกด้วย
9. จอดรถไว้บ้าน การจอดรถไว้ที่บ้าน เมื่อต้องการเดินทางก็ใช้บริการขนส่งสาธารณะซึ่งปัจจุบันก็สะดวกสบายขึ้นมาก หรือจะอยู่ที่บ้านโดยใช้การติดต่อทางโทรศัพท์ โทรสาร และอินเตอร์เน็ตแทน ก็เป็นหนทางหนึ่งในการลดการใช้น้ำมันของตนเองและของประเทศได้
บทความจาก http://www.eppo.go.th
..............................................
วิธีประหยัดน้ำมัน
ตรวจสอบลมยางเป็นประจำ เพราะยางที่อ่อนเกินไปนั้น ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่ายาง ที่มีปริมาณลมยางตามที่มาตรฐานกำหนด
สับเปลี่ยนยางตรวจตั้งศูนย์ล้อตามกำหนดจะช่วยประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกมาก
ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งเมื่อต้องจอดรถนาน ๆ แค่จอดรถติดเครื่องทิ้งไว้ 10 นาที ก็เสียน้ำมัน ฟรี ๆ 200 ซีซี
ไม่ควรติดเครื่องทิ้งไว้เมื่อจอดรถ ให้ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งที่ขึ้นของ ลงของ หรือคอยคน เพราะการติดเครื่องทิ้งไว้เปลืองน้ำมันและสร้างมลพิษอีกด้วย
ไม่ออกรถกระชากดังเอี๊ยด การออกรถกระชาก 10 ครั้ง สูญเสียน้ำมันไปเปล่า ๆ ถึง 100 ซีซี น้ำมันจำนวนนี้รถสามารถวิ่งได้ไกล 700 เมตร
ไม่เร่งเครื่องยนต์ตอนเกียร์ว่างอย่างที่เรียกกันติดปากว่า เบิ้ลเครื่อง การกระทำดังกล่าว10ครั้งสูญน้ำมันถึง50ซีซีปริมาณน้ำมันขนาดนี้รถวิ่งไปได้ตั้ง350 เมตร
ตรวจตั้งเครื่องยนต์ตามกำหนด ควรตรวจเช็คเครื่องยนต์สม่ำเสมอ เช่น ทำความสะอาดระบบไฟจุดระเบิด เปลี่ยนหัวคอนเดนเซอร์ ตั้งไฟแก่อ่อนให้พอดีจะช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 10%
All New Mazda 6 / Atenza อุ่นเครื่องก่อนเจอกันที่ปารีส
-
All New Mazda 6 / Atenza อุ่นเครื่องก่อนเจอกันที่ปารีส
มาสด้าสร้างกระแสความเคลื่อนไหวในตลาดรถยนต์ครอบครัว หรือกลุ่ม D-Segment
ระลอกใหม่เพื่อชะลดยอดขายคู่ปร...