เบื้องต้นข้อมูลรถใหม่ TOYOTA Mitsubishi Nissan Honda

reporters วิธีตรวจสอบคุณภาพยางรถ


reporters วิธีตรวจสอบคุณภาพยางรถ
สภาพภูมิอากาศในประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในภัยร้าย ที่คอยบั่นทอนยางรถของคุณ

ยาง ต้องเจอกับสภาพถนนและอุณภูมิที่แตกต่างกันอย่างมากในแต่ละวัน เราจึงควรเอาใจใส่ต่อยาง
เพราะสิ่งที่จะได้รับตอบแทนคือการขับขี่ที่ปลอดภัยตลอดเส้นทาง
ซึ่งทางที่ดีจึงควรตรวจสอบยางของท่านอย่างน้อย สัปดาห์ละ 1 ครั้ง


วิธีตรวจสอบคุณภาพยางแบบง่ายๆ

1. ตรวจสอบหน้ายางและแก้มยางว่ามีความเสียหายใดๆเกิดขึ้นหรือไม่
เช่น รอยบาดจากของมีคมประเภทเศษแก้ว การบวมบริเวณแก้มยาง การแตกลายงาในทุกส่วนของยาง

หากเกิดการฉีกขาดจากแก้มยางจนลึกไป ถึงผ้าใบชั้นใน ควรเปลี่ยนใหม่ทันที ไม่ควรซ่อม
เพราะแก้มยางคือ จุดที่ยางต้องรับน้ำหนัก และมีการบิดตัวไปมาในขณะที่ท่านขับขี่
ยางอาจเกิดการระเบิดขึ้นได้ หากมีรอยฉีกขาดบริเวณแก้มยาง

2. น้ำมันทุกชนิด มีผลก่อให้เกิดการบวมของยาง หรือยางร่อนออกจากขอบกระทะล้อ
ควรหลีกเลี่ยงการจอดรถบนคราบน้ำมัน หรือหากมีน้ำกรดหกโดนยาง ควรรีบล้างออกด้วยน้ำสบู่
พร้อมตรวจสอบสภาพของกระทะล้อ และจุ้บวาส์วเติมลมเป็นประจำ
เพราะบ่อยครั้งการแบนหรือรั่วซึมเกิดขึ้นจากสองจุดนี้ และควรมีฝาปิดจุ้บเติมลม เพื่อป้องกันการซึมของลมยาง

3. เมื่อรถเสีย และต้องถูกลากเป็นระยะทางไกลๆ ควรเพิ่มแรงดันลมยางที่ล้อหลังอีก 3-4ปอนด์ ต่อตารางนิ้ว

4. การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง หรือการออกตัวอย่างรุนแรง หรือออกรถแบบกระชาก
จะทำให้ยางมีการสึกเร็วกว่าการขับขี่แบบปกติมาก

5. ควรตรวจสอบความลึกของดอกยางว่าถึงระดับที่ควรจะเปลี่ยนยางหรือไม่
ซึ่งความลึกของดอกยางที่เหมาะสมควรมากกว่า 2 มิลลิเมตร

ยาง บางรุ่นในยุคปัจจุบัน มีสัญลักษณ์บอกความลึกของดอกยาง
เป็นแท่งเชื่อมระหว่างดอกยาง บริเวณส่วนลึกสุดของร่องยาง (แต่ไม่ไช่ทุกร่อง)
เมื่อใดที่ดอกยางสึกจนถึงแท่งนี้แล้ว ควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่ได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆของยางควบคู่กันไปด้วย เช่น
สภาพของเนื้อยางมีการบวม หรือแตก เพราะยางบางเส้นอาจหมดอายุการใช้งานแล้ว 2 มิลลิเมตรก็ตาม

6. ควรเขี่ย เศษก้อนกรวด เศษแก้วที่ติดอยู่บริเวณร่องยางออกให้หมด
เพราะเศษกรวดเหล่านี้ อาจเบียดแทรกและทิ่มตำเนื้อยางให้เสียหายได้


reporters วิธีตรวจสอบคุณภาพยางรถ
ที่มา ไทยรัฐ

รายการบล็อกของฉัน