เบื้องต้นข้อมูลรถใหม่ TOYOTA Mitsubishi Nissan Honda

BMW Vision Efficient Dynamics BMW Vision EfficiencyDynamics, Targa Newfoundland, ...

BMW Vision Efficient Dynamics

BMW Vision Efficient Dynamics

BMW Vision EfficiencyDynamics, Targa Newfoundland, ...

BMW Vision EfficiencyDynamics, Targa Newfoundland, ...


เผยโฉม BMW Vision EfficientDynamics รถแนวคิดไฮเทค หล่อระดับเทพ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีการปล่อยภาพ Teaser ของรถแนวคิด BMW Vision EfficientDynamics ออกมา แต่เป็นภาพที่เห็นแล้วต้องบอกว่า ไม่ดูยังจะดีกว่าเพราะไม่เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอันหรือมีอะไรให้ลุ้น ผมก็เลยตัดสินใจไม่พูดถึงเกี่ยวกับรถแนวคิดรุ่นนี้เลย เพราะยังไงอีกไม่นาน BMW ก็ต้องเผยโฉมออกมาเต็มๆก่อนงานมอเตอร์โชว์อยู่แล้ว และวันนั้นก็มาถึงในวันนี้พร้อมกับภาพความละเอียดสูงเกือบ 100 ภาพและคลิปวิดีโอเปิดตัว ถือเป็นการเผยโฉมครั้งแรกของรถยนต์รุ่นนี้เลยทีเดียว

รถแนวคิด 2+2 ที่นั่งรุ่นนี้ ถือว่าเป็นการสะท้อนภาพของเทคโนโลยี ActiveHybrid ของ BMW ที่เห็นได้ชัดที่สุด มันคือ สัญลักษณ์ของพลังแห่งการขับขี่สมรรถนะสูงในอนาคตและยังให้ความเพลิดเพลินในการขับแต่คงไว้ซึ่งการประหยัดน้ำมัน เรียกว่า “ดีไปหมดทุกอย่าง!”

BMW ยึดหลักในการสร้างรถแนวคิดรุ่นนี้ โดยการนำเอารถที่มีกำลังระดับรถเวอร์ชั่น M ของบริษัท มารวมเข้ากับคุณสมบัติของรถขนาดเล็กที่ทันสมัยซึ่งประหยัดน้ำมันและมีอัตราการปล่อยมลพิษเข้าสูอากาศน้อย หลักการที่ว่านี้เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนารถยนต์ในตระกูล BMW EfficientDynamics ซึ่งถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญของบริษัทในปัจจุบันและอนาคต

รถแนวคิด Vision EfficientDynamics ใช้ระบบไฮบริดเต็มรูปแบบที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 3 สูบ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลัง 356 แรงม้า(262 กิโลวัตต์) โดยมีแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 800 นิวตัน-เมตร(590 ปอนด์-ฟุต) ผ่านระบบขับเคลื่อนแบบ All-Wheel-Drive ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ามอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัวทั้งเพลาหน้าและหลัง

BMW คาดว่า Vision EfficientDynamics จะสามารถทำความเร็วจาก 0 สู่ 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายในเวลา 4.8 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง(ที่ถูกจำกัดความเร็วโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์) อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงตามที่ได้ทดสอบโดย EU อยู่ที่ 3.76 ลิตร/100 กิโลเมตร ส่วนอัตราการปล่อย CO2 เข้าสู่อากาศได้ตัวเลขสวยที่ 99 กรัม/กิโลเมตร

ในฐานะที่เป็นรถไฮบริด Plug-In รถแนวคิด BMW Vision EfficientDynamics คันนี้สามารถทดแทนรอบการขับที่ใช้น้ำมันได้โดยการใช้ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนแบบเพียวๆสามารถช่วยให้อัตราการปล่อย CO2 สู่อากาศลดลงไปเป็น 50 กรัม/กิโลเมตรเลยทีเดียว

กำลังไฟฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยระบบการใช้พลังงานที่เกิดจากระบบห้ามล้อจะไม่ทำให้เกิดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นเลยแม้แต่น้อย โดยพลังงานไฟฟ้าจะถูกเก็บไว้ในเซลล์โพลีเมอร์ลิเธี่ยมจำนวน 98 เซลล์ ซึ่งทำให้ Vision EfficientDynamics สามารถเคลื่อนที่ไปได้ไกลประมาณ 50 กิโลเมตร โดยการใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว

โดยการใช้วัสดุจากธรรมชาติและเทคโนโลยีส่องสว่างที่ทันสมัย ภายในของรถแนวคิดคันนี้ได้แสดงให้เห็นผลลัพธ์การใช้เทคโนโลยีดังกล่าว เช่น จอแสดงผลแบบ 3 มิติ วัสดุที่ใช้ทำหลังคาและประตูมีส่วนประกอบของแก้วโพลีคาร์บอเนตที่จะเข้มขึ้นมีการมีการปล่อยให้แสงลอดเข้ามาในตัวรถ ประตูแบบปีกนก Gullwing ด้านข้างสไตล์ซุปเปอร์คาร์ รถคันนี้ยังมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านต่ำเพียง 0.22 จากการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์แบบรถ Formula 1


เผยโฉม BMW Vision EfficientDynamics รถแนวคิดไฮเทค หล่อระดับเทพ

BMW Vision EfficientDynamics สุดยอดรถไฮบริดแห่งปี

หลังจากที่สื่อต่างๆ พยายามลงข่าว ภาพหลุด หรือ คลิป ต่างๆของ BMW Vision EfficientDynamics ในที่สุดครับ BMW ก็ปล่อย BMW Vision EfficientDynamics ให้ชมกันแบบเต็มๆแล้ว พร้อมโชว์ตัวที่ Frankfurt Motorshow 2009

BMW Vision EfficientDynamics ถูกออกแบบมาด้วย concept ที่ว่า ความแรงที่จับต้องได้จาก เทคโนโลยี ActiveHybrid และเป้าหมายหลักของ BMW vision คือ ประสิทธิภาพที่สูง และ การผสมรวมระหว่างการใช้พลังงานที่คุ้มค่าและความเป็น premium car

BMW Vision EfficientDynamics concept มากับระบบ full hybrid และ การวางที่นั่งแบบ 2-2 เรื่องของเครื่องยนต์ BMW Vision EfficientDynamics ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร 3 cylinder turbo คอมมอนเรล direct injection ให้แรงม้าถึง 163 ตัว แรงบิดสูงสุด 214 lb-ft จับแรงม้าลงพื้นด้วย เกียร์ 6 สปีด และ double คลัช และยังมีมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 2 ตัวด้วย

ที่ BMW Vision EfficientDynamics มีมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว เนื่องจากใช้หลักการของระบบไฮบริดที่ดีที่สุดคือ มี มอเตอร์ที่ควบคุมจังหวะการทำงาน 1 ตัวที่ล้อหน้า และ อีกหนึ่งตัวทำงานแบบ full hybrid ที่ล้อหลัง

มอเตอร์ตัวที่ 1 ถูกวางอยู่ระหว่าง เครื่องยนต์ และ ระบบเกียร์ ที่ให้กำลัง 25 kW (33 แรงม้า) และสามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ถึง 38 kW (51 แรงม้า) และ มอเตอร์ตัวที่ 2 ให้กำลังเสริมที่ช่วยให้ขับเคลื่อนได้อย่างราบรื่นที่ 60 kW (80 แรงม้า) ให้กำลังสูงสุดที่ 84 kW (112 แรงม้า) ซึ่งเป็นช่วงเวลาสั้นๆแค่ 30 วินาที อ่านแล้วอาจจะงง คือมันรีดกำลังสูงสุดได้ คราวละ 30 วินาทีนั่นเอง

BMW Vision EfficientDynamics สามารถเร่งจาก 0-100 โดยใช้เวลาเพียง 4.8 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีอัตรการซดน้ำมันที่ 63 mpg หรือประมาณ 20.2 กิโลเมตรต่อลิตร

BMW Vision EfficientDynamics มาพร้อมกับ แบตเตอรี่ ลิเธียมโพลีเมอร์ 98 เซลล์ ชาร์จไฟกับไฟบ้าน ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่งก็เต็มแล้ว

BMW กล่าวว่า รูปแบบการผลิต BMW Vision EfficientDynamics นี้ยังไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน และ เป็นการนำเทคโนโลยี ActiveHybrid ของ BMW และ ความเป็นสุดยอดนวัตกรรมของ BMW มารวมไว้ในคันเดียว BMW Vision EfficientDynamics ชม gallery ของ BMW Vision EfficientDynamics ต่อกันเลย

Car-News Weekly 25.09.2009

Car-News Weekly 25.09.2009

Car-News Weekly 25.09.2009

The new Mercedes CLS 63 AMG (by UPTV)

The new Mercedes CLS 63 AMG (by UPTV)

The new Mercedes CLS 63 AMG (by UPTV)

Over the years I’ve driven all sorts of dangerous cars, including a racing machine with no front brakes and an engine from an aeroplane, but until yesterday I hadn’t driven anything quite as deadly as this new Mercedes-Benz CL 63 AMG.

If you happen to be reading this in a Mercedes-Benz showroom, about to part with £103,540 for one and you want to retain possession of your driving licence, my strong advice is that you put down your coffee and head for the exit rapidly.

Usually I have no time for people who suddenly notice they’re driving much faster than they thought, but this CL’s ability to accrue speed by stealth is remarkable. And while it is clearly part of a wider arms race by manufacturers to produce ever more powerful cars (the 518bhp V8 motor is the most powerful of its type in the world), the blame for the frightening numbers that appear on its speedo is ultimately yours. The quality that will earn you what Americans quaintly call “fast driving awards” until you run out of points is the deadly cocktail of power, the ease with which it is delivered and the almost total absence of any of the usual sensations of speed.

Accelerate hard and the 6.2 litre engine (I have yet to fathom why Mercedes calls it a 63) makes all the barrel-chested V8 rumbles you could hope for, but settle into what you think is a steady cruise and it falls near enough silent. There’s negligible wind noise, despite the fact that, in line with Mercedes coupé tradition, it has no B-pillars, and even road roar on vast (optional) 20in rims is well muted.

The ride quality is exceptional, so you just sit there cocooned from reality at what seems like a modest canter until you squint at the tiny numbers on the ugly AMG speedo and realise the disparity between the speed you are doing and that you thought you were doing is the difference between the law not raising an eyebrow and having to talk your way out of a ban in court.

Clearly Mercedes is aware of this: know which buttons to press and you can summon up an enlarged digital speed readout on the dash. You can, of course, simply set the cruise control, though the active system in the car I drove has the disconcerting effect of keeping you so far from the car in front it’s a speck in the distance. As an ultimate failsafe, Mercedes fits a programmable speed limiter that lets the driver select a speed it will not exceed under any circumstances.

It is, of course, a car born for German businessmen used to bludgeoning their way down the autobahn with their lights on full beam, indicator permanently on and the speedo as close to the electronically limited 155mph top speed as humanly possible. Within the crowded confines of the British road network, it feels as confined and far from its natural habitat as King Kong in New York.

But while it may not be suited to this compromised environment, that is not to say it is entirely unable to impress. The thunderous power of its engine is something not to be forgotten, even if the seven-speed automatic gearbox to which it’s tied is sometimes slow and hesitant. And should you find an example of that increasingly rare commodity, a quiet, open and winding road, you will marvel at the precision and control the AMG engineers have brought to a car that, lest we forget, weighs more than two tons and is based on the vast S-class saloon. It’ll go round corners at speeds you’d not credit, knock the air from your lungs when you brake and thread itself down a narrow lane like a car two sizes smaller.

Indeed, in all ways that are easy to measure, it would appear superior to the Bentley Continental GT, the car it was put on earth to beat. It has a little less power but a whole lot less weight, so is comfortably quicker. I don’t doubt it has superior ride and handling qualities, and while the Bentley is cramped in the back the CL is a comfortable four seater, and its boot is vast.

All it lacks is perhaps the most important thing of all to most customers looking to spend more than £100,000 on a coupé. They don’t want true luxury because, if they did, they’d have bought a limousine; nor do they want some ultimate driving experience because then they’d have bought a supercar. What they’re after is a sense of occasion, a feeling of anticipation when you see it on your drive, of pride when your friends see you in it.

Bluntly, the Bentley has that in spades and, for all its many talents, this Merc does not. Its cabin is insufficiently special in feel and look, its exterior attractive but ultimately not that memorable.

Forced to choose, I’d have the Mercedes because it is the more capable car, but then I’m not a typical customer. The idea of a car this fast and capable may be hugely appealing, but the reality on our clogged and camera-loaded roads is less so. Technically the CL 63 AMG is a fine achievement, but the truth is it needs more space than we have for it to shine.

2009 Yaris 5 Door Lift Back Sport, Toyota.

2009 Yaris 5 Door Lift Back Sport, Toyota.


2009 Yaris 5 Door Lift Back Sport, Toyota.


2009 Yaris 3 Door Sedan, Toyota.

2009 Yaris 3 Door Sedan, Toyota.


TOYOTA Yaris (by UPTV)

TOYOTA Yaris (by UPTV)


Toyota Yaris

Toyota Yaris

2009 Toyota Yaris vs Toyota Camry - Offset Frontal Crash Test

2009 Toyota Yaris vs Toyota Camry - Offset Frontal Crash Test


2009 Toyota Yaris vs Toyota Camry - Offset Frontal Crash Test


2009 Toyota New Yaris Review

2009 Toyota New Yaris Review

ในที่สุดก็ถึงเวลาเปิดตัว Toyota Yaris ไมเนอร์เชนจ์ หลังจากที่เปิดตัวรุ่นแรกมาได้ประมาณ 2 ปี ราคา Toyota Yaris ใหม่ทาง Toyota แบไต๋ออกมาแล้วดังนี้ครับ

รุ่น S Limited เกียร์อัตโนมัติ ราคา 714,000 บาท
รุ่น S เกียร์อัตโนมัติ ราคา 694,000 บาท
รุ่น G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 674,000 บาท
รุ่น E Limited เกียร์อัตโนมัติ ราคา 649,000 บาท
รุ่น E เกียร์อัตโนมัติ ราคา 629,000 บาท
รุ่น E เกียร์ธรรมดา ราคา 594,000 บาท
รุ่น J เกียร์อัตโนมัติ ราคา 574,000 บาท
รุ่น J เกียร์ธรรมดา ราคา 539,000 บาท
Customized seat เพิ่ม 3,000 บาท (มีเฉพาะรุ่น J, E และ S เท่านั้น)

หลังจากเปิดตัวครั้งแรกในเมืองไทยเมื่อปี 2549 “โตโยต้า ยาริส” ได้ฤกษ์ปรับปรุงโฉมแบบไมเนอร์เชนจ์ให้กับยาริสในปีนี้ และเพื่อเอาใจแฟนๆ ของ “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” เปิดเผยข้อมูลและรูปคันจริงให้เห็นก่อนการเปิดตัวจริงที่จะมีขึ้น ในวันที่ 14 มีนาคมที่จะถึง ซึ่งโตโยต้า กำหนดเปิดตัว ยาริส ไมเนอร์เชนจ์ อย่างเป็นทางการ
สำหรับภายนอก ยาริส ไมเนอร์เชนจ์ มีการปรับเปลี่ยน กันชนหน้าและหลังให้กว้างขึ้น กระจังหน้าลายใหม่ ดีไซน์เรียว โคมไฟหน้าใหม่ ใหญ่กว่าเดิม เพิ่มไฟเลี้ยวกระจกมองข้าง โคมไฟหลังดีไซน์ใหม่ อินเทรนด์ด้วยไฟเลี้ยวสีส้ม และเลนส์ไฟตัดหมอกหลังแบบใส ล้ออัลลอยใหม่ ลาย 8 ก้านขนาด 15 นิ้ว และสเกิร์ตหน้า-หลังใหม่ ใหม่ (เฉพาะรุ่น S Ltd, S และ E Ltd)
ส่วนภายใน พวงมาลัย 3 ก้านพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ความปลอดภัยที่แฝงมาพร้อมความสะดวกสบาย, ช่องต่อสาย AUX, ผ้าเบาะลายใหม่, เพิ่มความอเนกประสงค์มากขึ้นด้วย ช่องเก็บของด้านข้างประตู ถาดใส่ของอเนกประสงค์ใต้คอนโซลด้านคนขับ ช่องเก็บของอเนกประสงค์บริเวณคอนโซลกลาง ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลท้ายพร้อมที่วางแก้วด้านหลังกล่องเก็บของเหนือพวงมาลัย กล่องเก็บของและลิ้นชักบริเวณผู้โดยสารด้านหน้า รวมสิ่งที่เปลี่ยนทั้งหมดกว่า 20 จุด
ขณะที่เครื่องยนต์ และระบบช่วงล่างยังคงเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง กับเครื่องเบนซิน รหัส 1 NZ-FE VVT-i ขนาดความจุ 1,500 ซีซี DOHC 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 109 แรงม้า (80 กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super ECT แบบ Gate Type ส่วนระบบกันสะเทือนหน้า แม็คเฟอร์สันสตรัท และระบบกันสะเทือนหลังแบบทอร์ชันบีม พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS ด้วยวงเลี้ยวที่แคบสุดเพียง 4.7 เมตร

ด้านความปลอดภัยยังคงครบถ้วนเหมือนเดิมด้วย ถุงลมนิรภัย SRS คู่สำหรรับคนขับ และผู้โดยสารด้านหน้า (มาตรฐานในทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น J) เข็มขัดนิรภัย ELR แบบ 3 จุด ทุกที่นั่ง พร้อมกลไกดึงกลับ และผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ (Pretensioner & Force Limiter) ในเข็มขัดนิรภัยคู่หน้า (ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น J) เบาะนั่งแบบ WIL Concept ช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการชนด้านหลัง ลดอาการบาดเจ็บบริเวณต้นคอ และแผ่นหลังตอนบน

โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA ดูดซับแรงกระแทก ลดความรุนแรงจากการชน ด้วยการกระจายแรงสู่ตัวถัง ระบบเบรค ABS ทำงานผสานกับระบบ EBD ปรับแรงดันน้ำมันเบรคแบบอิสระ 4 ล้อ แปรผันตามน้ำหนัก ที่กดลงแต่ละล้อในขณะนั้นๆ (ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น J) กุญแจรีโมท Immobilizer ป้องกันกุญแจเลียนแบบ ไม่ให้สามารถสตาร์ทเครื่องได้ โดยระบบจะตรวจสอบ ID Code ของกุญแจว่าตรงกับที่บันทึกไว้ใน ECU หรือไม่ (เฉพาะรุ่น S limited)

โตโยต้า ยาริส มาพร้อมกับสีสันให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ Super White II / Silver Metallic / Medium Silver Metallic / Super Red / Black Mica / และสีใหม่ Light Blue Mica Metallicสนนราคาปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมรุ่นละ 15,000 บาท เว้นรุ่น J ที่เพิ่มขึ้น 10,000 บาท


ที่มา: Toyota/ผู้จัดการมอเตอริ่ง


Toyota New Yaris - Car Review

Toyota New Yaris - Car Review


Toyota Yaris 2009 - Bologna Motor Show 2008 Automobilismo.it

Toyota Yaris 2009 - Bologna Motor Show 2008 Automobilismo.it

2009 Toyota Yaris Video Review

2009 Toyota Yaris Video Review

2009 Toyota Yaris Video Review

VDO-TOYOTA-All New VIOS 2007/YARIS Sedan

AEROKLAS SRV Body Kit for TOYOTA All New VIOS 2007/YARIS Sedan



AEROKLAS SRV Body Kit for TOYOTA All New VIOS 2007/YARIS Sedan

New Toyota Yaris ปี 2009 ใหม่ Minor Change สวยเก๋ มีให้เลือก 8 รุ่น

New Toyota Yaris
ปี 2009 ใหม่
Minor Change
สวยเก๋ มีให้เลือก 8 รุ่น

New Toyota Yaris ปี 2009 ใหม่ Minor Change สวยเก๋ มีให้เลือก 8 รุ่น

New Toyota Yaris ปี 2009 ใหม่ Minor Change สวยเก๋ มีให้เลือก 8 รุ่น

ในที่สุดก็ถึงเวลาเปิดตัว Toyota Yaris ไมเนอร์เชนจ์ หลังจากที่เปิดตัวรุ่นแรกมาได้ประมาณ 2 ปี ราคา Toyota Yaris ใหม่ทาง Toyota แบไต๋ออกมาแล้วดังนี้ครับ

รุ่น S Limited เกียร์อัตโนมัติ ราคา 714,000 บาท
รุ่น S เกียร์อัตโนมัติ ราคา 694,000 บาท
รุ่น G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 674,000 บาท
รุ่น E Limited เกียร์อัตโนมัติ ราคา 649,000 บาท
รุ่น E เกียร์อัตโนมัติ ราคา 629,000 บาท
รุ่น E เกียร์ธรรมดา ราคา 594,000 บาท
รุ่น J เกียร์อัตโนมัติ ราคา 574,000 บาท
รุ่น J เกียร์ธรรมดา ราคา 539,000 บาท
Customized seat เพิ่ม 3,000 บาท (มีเฉพาะรุ่น J, E และ S เท่านั้น)





New Toyota Yaris ปี 2009 ใหม่ Minor Change สวยเก๋ มีให้เลือก 8 รุ่น

2009 Toyota Yaris แต่งหน้าใหม่ เปิดตัวที่ Bologna Motor Show

2009 Toyota Yaris
แต่งหน้าใหม่ เปิดตัวที่
Bologna Motor Show


2009 Toyota Yaris แต่งหน้าใหม่ เปิดตัวที่ Bologna Motor Show


2009 Toyota Yaris แต่งหน้าใหม่ เปิดตัวที่ Bologna Motor Show

Toyota Yaris ไมเนอร์เชนจ์ได้เปิดตัวที่งาน Bologna Motor Show ก่อนที่จะเริ่มมีจำหน่ายในยุโรปที่กำหนดไว้ในต้นปีหน้า โดยโฉมใหม่นี้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในส่วนด้านหน้าตรงกระจังหน้าที่แคบลง กันชนหลัง นอกจากนั้นยังมีไฟหน้าและหลังที่เปลี่ยนแปลงไป ส่วนภายในมีการตกแต่งด้วยเบาะหนังพร้อมลวดลายใหม่ และที่สำคัญที่สุดก็คือ การใช้เครื่องยนต์ใหม่ล่าสุดแบบ 4 สูบ Dual VVT-i ความจุ 1.33 ลิตร ซึ่งเริ่มมีใช้ในรุ่น Auris มาก่อน

เครื่องยนต์ใหม่นี้จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่อากาศ มีการประหยัดน้ำมันที่มากกว่า มีกำลังและแรงบิดที่สูงกว่าเครื่องยนต์แบบเก่าที่มีขนาด 1.4 ลิตร เครื่องยนต์ใหม่ขนาด 1.33 ลิตรนี้ ให้กำลังที่ 101 แรงม้า แรงบิดที่ 132 นิวตัน-เมตร ชุดเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และมี option เป็นระบบเกียร์ MMT กึ่งอัตโนมัติ Toyota อ้างว่าเวอร์ชั่นเกียร์ธรรมดามีอัตราการใช้น้ำมันเฉลี่ยที่ 5.1 ลิตร/100 กิโลเมตร (46.1 ไมล์/แกลลอน)

นอกจากนั้นแล้ว โตโยต้ายาริสใหม่นี้ยังมีการใช้เทคโนโลยี Stop & Start เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นกลไกของเกียร์สตาร์ทแบบถาวรซึ่งหมายความว่า มอเตอร์สตาร์ทจะมีการสัมผัสโดยตรงกับเกียร์วงแหวนในเครื่องยนต์ ผลดีที่เกิดขึ้นก็คือ เครื่องยนต์สามารถเดินเครื่องและหยุดได้เร็วขึ้น และมีเสียงดังน้อยลง

แหล่งข่าว: Toyota แปลและเรียบเรียงโดย AutoSpinn.com
2009 Toyota Yaris แต่งหน้าใหม่ เปิดตัวที่ Bologna Motor Show

เผยโฉมเต็มรูปแบบ Suzuki Kizashi คู่ปรับ Mazda 6 เตรียมชน Volkswagen Passat

เผยโฉมเต็มรูปแบบ
Suzuki Kizashi คู่ปรับ
Mazda 6 เตรียมชน
Volkswagen Passat


เผยโฉมเต็มรูปแบบ Suzuki Kizashi คู่ปรับ Mazda 6 เตรียมชน Volkswagen Passat

ต่อจาก post ก่อนหน้านี้เรื่องการเปิดตัวของ Suzuki Kizashi ที่ Detroit เมื่อเวลาประมาณตีหนึ่งตีสองในบ้านเรา ซีดานขนาดกลางรุ่นนี้จะถูกผลิตที่เมือง Sagara ประเทศญี่ปุ่น โดยมีแผนลุยตลาดอเมริกาในช่วงฤดูหนาวปีนี้ มีทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและทุกล้อ (All-Wheel-Drive) ให้เลือก คู่แข่งของ Mazda 6 และ Volkswagen Passat รุ่นนี้จะใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร ผ่านระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และมี option เป็นระบบเกียร์แบบแปรผันต่อเนื่อง (CVT)

แม้ว่าทาง Suzuki ยังไม่มีการเปิดเผยในเรื่องตัวเลขสมรรถนะของเครื่องยนต์ แต่ Suzuki แถลงว่ากำลังอยู่ในช่วงการพัฒนาระบบขับเคลื่อนชนิดต่างๆรวมถึงเวอร์ชั่นไฮบริดประหยัดน้ำมันที่จะนำเข้าสู่ระบบการผลิตรถยนต์รุ่นนี้ในเร็วๆนี้



เผยโฉมเต็มรูปแบบ Suzuki Kizashi คู่ปรับ Mazda 6 เตรียมชน Volkswagen Passat


Suzuki ยังได้นำเอาระบบควบคุมความเสถียรรถยนต์ ระบบห้ามล้อแบบ Anti-Lock พร้อมระบบกระจายแรงเบรคอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงระบบควบคุมการเคลื่อนตัวรถยนต์แบบประสานรวมที่พัฒนาขึ้นโดย Suzuki เอง ที่จะช่วยให้ผู้ขับสามารถควบคุมรถได้ดีขึ้น มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของ Kizashi นี้



เผยโฉมเต็มรูปแบบ Suzuki Kizashi คู่ปรับ Mazda 6 เตรียมชน Volkswagen Passat

ด้วยขนาดความยาว 4,650 มิลลิเมตร กว้าง 1,820 มิลลิเมตร และสูง 1,480 มิลลิเมตร โดยมีฐานล้อยาว 2,700 มิลลิเมตร ถือว่า Kizashi มีขนาดใกล้เคียงกับ Audi A4 เจนเนอเรชั่นล่าสุด ภายในของ Kizashi ได้มีการออกแบบแผงหน้าปัดควบคุมที่ดูหรูหรา แผงปุ่มควบคุมต่างๆออกไปทาง Alfa Romeo พร้อมมาตรวัดลึก 2 ชุด



เผยโฉมเต็มรูปแบบ Suzuki Kizashi คู่ปรับ Mazda 6 เตรียมชน Volkswagen Passat


ราคาและรายละเอียดที่มากกว่านี้ของ Suzuki Kizashi จะมีการเปิดเผยในช่วงการเปิดการขายที่อเมริกาในเดือนธันวาคม ส่วนการขายในตลาดอื่นๆยังไม่มีการเปิดเผยครับ


เผยโฉมเต็มรูปแบบ Suzuki Kizashi คู่ปรับ Mazda 6 เตรียมชน Volkswagen Passat

เผยโฉมเต็มรูปแบบ Suzuki Kizashi คู่ปรับ Mazda 6 เตรียมชน Volkswagen Passat

เผยโฉมเต็มรูปแบบ Suzuki Kizashi คู่ปรับ Mazda 6 เตรียมชน Volkswagen Passat



ที่มา: Suzuki
เผยโฉมเต็มรูปแบบ Suzuki Kizashi คู่ปรับ Mazda 6 เตรียมชน Volkswagen Passat

Ducati Hypermotard 796 ใหม่ ปี 2010 มอเตอร์ไซค์ขาลุย ดาวน์เกรดจากรุ่น 1000 แต่ยังดูดี

Ducati Hypermotard 796
ใหม่ ปี 2010 มอเตอร์ไซค์ขาลุย
ดาวน์เกรดจากรุ่น 1000 แต่ยังดูดี



Ducati Hypermotard 796 ใหม่ ปี 2010 มอเตอร์ไซค์ขาลุย ดาวน์เกรดจากรุ่น 1000 แต่ยังดูดี

Ducati Hypermotard 796 รุ่นปี 2010 คันนี้ ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อเจาะตลาดของกลุ่มผู้ซื้อที่อยากจะได้ Hypermotard 1000 แต่เงินไม่ถึง แม้ว่ายังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลออกมาอย่างเป็นทางการแต่อย่างน้อยก็ทำให้ผู้ที่เล็งรถรุ่นนี้ไว้สบายใจขึ้น เพราะไม่มีการเปลี่ยน swingarm เดี่ยวไปเป็นแบบคู่ คือยังดูเท่และเสถียรเหมือนเดิม และไม่มีการตัดหน้ากาก กระจกออก หรือเปลี่ยนตำแหน่งไฟเลี้ยวไป แต่กลับมีสีสวยๆให้เลือกคือ สีขาวด้าน ดำด้าน และสีแดง ดูเหมือนว่าสีด้านจะมาแรงทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์



Ducati Hypermotard 796 ใหม่ ปี 2010 มอเตอร์ไซค์ขาลุย ดาวน์เกรดจากรุ่น 1000 แต่ยังดูดี

Hypermotard 796 ใช้เครื่องยนต์ขนาด 796 ซีซี แบบใหม่ยกบล็อค คลัทช์แบบ slipper ให้กำลัง 81 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 56 ปอนด์-ฟุต มีการใช้โครงตัวถังใหม่เช่นกัน น้ำหนักรถอยู่ที่ 167 กิโลกรัม ระดับของที่นั่งลดลงไปอีก 20 มิลลิเมตร อัตราการซดน้ำมันอยู่ที่ 49 ไมล์/แกลลอน

Ducati Hypermotard 796 ใหม่ ปี 2010 มอเตอร์ไซค์ขาลุย ดาวน์เกรดจากรุ่น 1000 แต่ยังดูดี

ราคาของ Hypermotard 796 อยู่ที่ 7,990 ยูโรสำหรับตลาดยุโรป และ 9,995 เหรียญสหรัฐฯสำหรับอเมริกาซึ่งจะเริ่มจำหน่ายในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ครับ



Ducati Hypermotard 796 ใหม่ ปี 2010 มอเตอร์ไซค์ขาลุย ดาวน์เกรดจากรุ่น 1000 แต่ยังดูดี

ที่มา: Ducati

Suzuki Kizashi ซีดานขนาดกลาง เผยตัวบนเว็บก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันนี้

Suzuki Kizashi
ซีดานขนาดกลาง
เผยตัวบนเว็บก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
วันนี้



Suzuki Kizashi ซีดานขนาดกลาง เผยตัวบนเว็บก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันนี้

Suzuki Kizashi ซีดานขนาดกลาง เผยตัวบนเว็บก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันนี้


ภาพที่เห็นคือ ภาพถ่ายที่มีคนโพสต์ในเว็บบอร์ดต่างประเทศของ Suzuki Kizashi รถซีดานขนาดกลางที่กำลังเปิดตัวที่อเมริกาในขณะที่ผมกำลังเขียน post นี้อยู่ และเมื่อเปรียบเทียบกับรถแนวคิดในปี 2008 ที่เปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ที่นิวยอร์ค มีความแตกต่างพอสมควร แต่รูปลักษณ์ที่ออกมาดูดีและเป็นเอกลักษณ์จริงๆ แม้ว่าจะในบางมุมอาจจะมองดูคล้าย Series 5 หรือรถบางยี่ห้อไปบ้าง


Suzuki Kizashi ซีดานขนาดกลาง เผยตัวบนเว็บก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันนี้

ใหม่ Suzuki Swift SZ-L ปี 2010 รุ่นพิเศษ กระตุ้นยอดขายที่อังกฤษ เพียง 500 คัน

ใหม่ Suzuki Swift SZ-L ปี 2010
รุ่นพิเศษ กระตุ้นยอดขายที่อังกฤษ
เพียง 500 คัน




ใหม่ Suzuki Swift SZ-L ปี 2010 รุ่นพิเศษ กระตุ้นยอดขายที่อังกฤษ เพียง 500 คัน


Suzuki กระตุ้นยอดขายที่อังกฤษด้วยการออกรุ่นพิเศษของ Suzuki Swift ภายใต้ชื่อรุ่น SZ-L ซึ่งใช้รุ่น 5 ประตู เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตรเป็นรถพื้นฐาน SZ-L ใช้อุปกรณ์มาตรฐานที่มีการพัฒนาให้ดีขึ้นซึ่งรวมถึงระบบปรับอากาศ สีมุกหรือสีเมทัลลิคให้เลือก ล้ออัลลอยขอบ 15 นิ้ว กระจกมองข้างไฟฟ้า คิ้วกันกระแทกด้านข้าง เสื่อรองพื้นแบบพิเศษ ใช้สีโครเมี่ยมกับด้ามจับประตู แผงกระจังหน้าและที่จับประตูหลัง

ใหม่ Suzuki Swift SZ-L ปี 2010 รุ่นพิเศษ กระตุ้นยอดขายที่อังกฤษ เพียง 500 คัน


นอกจากนั้นแล้ว ภายในยังมีการใช้มาตรวัดสีโครเมี่ยม ในขณะที่ลวดลายแผงข้างประตูและระบบเครื่องเสียงตกแต่งด้วยสีอลูมิเนียม

ใหม่ Suzuki Swift SZ-L ปี 2010 รุ่นพิเศษ กระตุ้นยอดขายที่อังกฤษ เพียง 500 คัน


ที่มา: Suzuki UK
Suzuki SZ-L มีให้เลือก 4 สี คือ สีขาวมุก Cool สีดำมุก Cosmic สีแดงมุก Supreme และสีเงินเมทัลลิค Silky โดยจะผลิตออกมาเพียง 500 คันในราคา 10,250 ปอนด์ครับ



ใหม่ Suzuki Swift SZ-L ปี 2010 รุ่นพิเศษ กระตุ้นยอดขายที่อังกฤษ เพียง 500 คัน

เผยโฉม Suzuki GSF1250 Bandit ใหม่ ปี 2010 มอเตอร์ไซค์ใหญ่ แฝงสไตล์อนุรักษ์นิยม

เผยโฉม Suzuki GSF1250 Bandit
ใหม่ ปี 2010 มอเตอร์ไซค์ใหญ่

แฝงสไตล์อนุรักษ์นิยม



เผยโฉม Suzuki GSF1250 Bandit ใหม่ ปี 2010 มอเตอร์ไซค์ใหญ่ แฝงสไตล์อนุรักษ์นิยม


Suzuki ได้ปล่อยภาพชุดแรกของ GSF1250 Bandit ปี 2010 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย ซุปเปอร์ไบค์เปลือยหน้าเปลือยตัวที่ใช้ท่อไอเสียทรงคลาสสิคคันนี้มีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง 1,255 ซีซี 16 วาล์ว DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ การเปลี่ยนแปลงของรูปลักษณ์ภายนอกได้แก่ ไฟหน้าและไฟท้ายใหม่ ท่อไอเสียใหม่ และการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆบริเวณตัวรถ ระบบกันสะเทือนปรับได้สำหรับ preload ระดับความสูงของเบาะนั่งสามารถลดลงไปได้ 20 มิลลิเมตรโดยการปรับ shim รองสปริง ส่วนระบบเบรค ABS เป็น option ครับ



เผยโฉม Suzuki GSF1250 Bandit ใหม่ ปี 2010 มอเตอร์ไซค์ใหญ่ แฝงสไตล์อนุรักษ์นิยม


เจ้า GSF1250 Bandit รุ่นนี้อาจจะไม่ใช่รถที่ไฮเทคที่สุดๆ แต่ก็ดีพอในการเป็นมอเตอร์ไซค์ใหญ่ รูปทรงมาตรฐานที่เหมาะกับสรีระผู้ขี่ และเป็นเยี่ยมในการใช้งานในชีวิตประจำวัน

เผยโฉม Suzuki GSF1250 Bandit ใหม่ ปี 2010 มอเตอร์ไซค์ใหญ่ แฝงสไตล์อนุรักษ์นิยม


ราคาขายตั้งไว้ที่ 8,249 ยูโรหรือประมาณ 12,000 เหรียญสหรัฐฯ โดยจะเริ่มมีจำหน่ายตามโชว์รูมของ Suzuki ในต้นปีหน้าครับ

เผยโฉม Suzuki GSF1250 Bandit ใหม่ ปี 2010 มอเตอร์ไซค์ใหญ่ แฝงสไตล์อนุรักษ์นิยม

เผยโฉม Suzuki GSF1250 Bandit ใหม่ ปี 2010 มอเตอร์ไซค์ใหญ่ แฝงสไตล์อนุรักษ์นิยม

Aprilia จัดให้ RS50, RS125 และ SR50 เวอร์ชั่น Replica โฉม RSV4 ของ Max Biaggi

Aprilia จัดให้ RS50,

RS125 และ SR50 เวอร์ชั่น Replica

โฉม RSV4 ของ Max Biaggi




Aprilia จัดให้ RS50, RS125 และ SR50 เวอร์ชั่น Replica โฉม RSV4 ของ Max Biaggi


Aprilia เตรียมออกมอเตอร์ไซค์ใหม่ 3 รุ่น ที่เลียนแบบหรือเป็นรุ่น Replica ของ Aprilia RSV4 ที่ใช้แข่งโดย Max Biaggi ถือว่าเป็นการฉลองชัยชนะของ Max Biaggi ที่สนาม Brno ประเทศสาธารณรัฐเชค ในวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยรถทั้ง 3 รุ่นที่จะผลิตออกมาในโฉมนี้คือ RS50, RS125 และ SR50

Aprilia RS50 เป็นมอเตอร์ไซค์สปอร์ทของแท้สำหรับนักบิดวัยเยาว์ เป็นรุ่นระดับ entry-level ที่รวมเอาความเป็นมอเตอร์ไซค์สปอร์ท สปิริทแห่งชัยชนะ และเทคโนโลยีมอเตอร์ไซค์ 2 จังหวะที่ครองสนาม MotoGP มาตลอด เข้าไว้ด้วยกัน


Aprilia จัดให้ RS50, RS125 และ SR50 เวอร์ชั่น Replica โฉม RSV4 ของ Max Biaggi


สำหรับ Aprilia RS125 แน่นอนว่า แรงขึ้นกว่า RS50 มาก แต่ก็เจาะตลาดกลุ่มวัยรุ่นเช่นกัน และเป็นรุ่นที่สร้างชื่อมามากในฐานะการเป็นมอเตอร์ไซค์สปอร์ท 2 จังหวะที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก โดยในปี 2009 นี้ RS125 ได้รับรางวัล Bike of the Year ในรถระดับเดียวกันจากนิตยสาร Motociclismo และได้รับการเสนอชื่อเป็น “มอเตอร์ไซค์รุ่น 125 ซีซีแห่งปี 2009″ ของนิตยสาร In Moto ที่มีผู้อ่านจาก 12 ประเทศในยุโรปเป็นผู้คัดเลือก

ส่วน Aprilia SR50 เป็นรถ Scooter ที่ถือว่าดูสปอร์ทมากที่สุดรุ่นหนึ่งของโลกเลยทีเดียว




หล่อเท่แบบไหน ชมกันชัดๆใน gallery ด้านล่างครับ

ที่มา: Aprilia

Aprilia จัดให้ RS50, RS125 และ SR50 เวอร์ชั่น Replica โฉม RSV4 ของ Max Biaggi

ใหม่ Yamaha YZR R6 ปี 2010 ลงตลาดอเมริกามกราคมปีหน้า ติดป้ายที่ 10,490 เหรียญฯ

ใหม่ Yamaha YZR R6 ปี 2010

ลงตลาดอเมริกามกราคมปีหน้า

ติดป้ายที่ 10,490 เหรียญฯ



ใหม่ Yamaha YZR R6 ปี 2010 ลงตลาดอเมริกามกราคมปีหน้า ติดป้ายที่ 10,490 เหรียญฯ


Yamaha เตรียมส่ง YZR R6 ใหม่ รุ่นปี 2010 ลุยอเมริกาในเดือนมกราคมของปีหน้า ความใหม่เป็นเรื่องของสี ที่มี 3 แบบตามภาพประกอบ คือ ฟ้า-ขาว ขาวล้วน และดำล้วน มีการใช้สีเทาแต่งลายบริเวณล้อดูลงตัวไม่ดูลิเกหลากสีเหมือนรุ่นก่อน นอกจากนั้นยังมีการวาง ECU ใหม่ ช่องไอดี YCC-I และ airbox มีการปรับแต่ง ส่วนท่อไอเสียแบบใหม่มีความยาวมากขึ้น 100 มิลลิเมตร ตามที่จั่วหัวไว้ข้างต้น YZR R6 ปี 2010 นี้จะมีจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้าเป็นต้นไปในราคาขายปลีกที่ 10,490 เหรียญสหรัฐฯครับ


ใหม่ Yamaha YZR R6 ปี 2010 ลงตลาดอเมริกามกราคมปีหน้า ติดป้ายที่ 10,490 เหรียญฯ

ใหม่ Yamaha YZR R6 ปี 2010 ลงตลาดอเมริกามกราคมปีหน้า ติดป้ายที่ 10,490 เหรียญฯ

ใหม่ Yamaha YZR R6 ปี 2010 ลงตลาดอเมริกามกราคมปีหน้า ติดป้ายที่ 10,490 เหรียญฯ

ใหม่ Yamaha YZR R6 ปี 2010 ลงตลาดอเมริกามกราคมปีหน้า ติดป้ายที่ 10,490 เหรียญฯ

New Toyota Yaris ปี 2009 ใหม่ Minor Change สวยเก๋ มีให้เลือก 8 รุ่น

New Toyota Yaris ปี 2009

ใหม่ Minor Change

สวยเก๋ มีให้เลือก 8 รุ่น



New Toyota Yaris ปี 2009 ใหม่ Minor Change สวยเก๋ มีให้เลือก 8 รุ่น

ในที่สุดก็ถึงเวลาเปิดตัว Toyota Yaris ไมเนอร์เชนจ์ หลังจากที่เปิดตัวรุ่นแรกมาได้ประมาณ 2 ปี ราคา Toyota Yaris ใหม่ทาง Toyota แบไต๋ออกมาแล้วดังนี้ครับ

รุ่น S Limited เกียร์อัตโนมัติ ราคา 714,000 บาท
รุ่น S เกียร์อัตโนมัติ ราคา 694,000 บาท
รุ่น G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 674,000 บาท
รุ่น E Limited เกียร์อัตโนมัติ ราคา 649,000 บาท
รุ่น E เกียร์อัตโนมัติ ราคา 629,000 บาท
รุ่น E เกียร์ธรรมดา ราคา 594,000 บาท
รุ่น J เกียร์อัตโนมัติ ราคา 574,000 บาท
รุ่น J เกียร์ธรรมดา ราคา 539,000 บาท
Customized seat เพิ่ม 3,000 บาท (มีเฉพาะรุ่น J, E และ S เท่านั้น)

ข่าวจากคัดมาจากชาวบ้านอีกแล้ว แต่ภาพชัดๆจัดให้โดย AutoSpinn.com เช่นเดิม


New Toyota Yaris ปี 2009 ใหม่ Minor Change สวยเก๋ มีให้เลือก 8 รุ่น

หลังจากเปิดตัวครั้งแรกในเมืองไทยเมื่อปี 2549 “โตโยต้า ยาริส” ได้ฤกษ์ปรับปรุงโฉมแบบไมเนอร์เชนจ์ให้กับยาริสในปีนี้ และเพื่อเอาใจแฟนๆ ของ “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” เปิดเผยข้อมูลและรูปคันจริงให้เห็นก่อนการเปิดตัวจริงที่จะมีขึ้น ในวันที่ 14 มีนาคมที่จะถึง ซึ่งโตโยต้า กำหนดเปิดตัว ยาริส ไมเนอร์เชนจ์ อย่างเป็นทางการ


New Toyota Yaris ปี 2009 ใหม่ Minor Change สวยเก๋ มีให้เลือก 8 รุ่น

สำหรับภายนอก ยาริส ไมเนอร์เชนจ์ มีการปรับเปลี่ยน กันชนหน้าและหลังให้กว้างขึ้น กระจังหน้าลายใหม่ ดีไซน์เรียว โคมไฟหน้าใหม่ ใหญ่กว่าเดิม เพิ่มไฟเลี้ยวกระจกมองข้าง โคมไฟหลังดีไซน์ใหม่ อินเทรนด์ด้วยไฟเลี้ยวสีส้ม และเลนส์ไฟตัดหมอกหลังแบบใส ล้ออัลลอยใหม่ ลาย 8 ก้านขนาด 15 นิ้ว และสเกิร์ตหน้า-หลังใหม่ ใหม่ (เฉพาะรุ่น S Ltd, S และ E Ltd)


New Toyota Yaris ปี 2009 ใหม่ Minor Change สวยเก๋ มีให้เลือก 8 รุ่น

ส่วนภายใน พวงมาลัย 3 ก้านพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ความปลอดภัยที่แฝงมาพร้อมความสะดวกสบาย, ช่องต่อสาย AUX, ผ้าเบาะลายใหม่, เพิ่มความอเนกประสงค์มากขึ้นด้วย ช่องเก็บของด้านข้างประตู ถาดใส่ของอเนกประสงค์ใต้คอนโซลด้านคนขับ ช่องเก็บของอเนกประสงค์บริเวณคอนโซลกลาง ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลท้ายพร้อมที่วางแก้วด้านหลังกล่องเก็บของเหนือพวงมาลัย กล่องเก็บของและลิ้นชักบริเวณผู้โดยสารด้านหน้า รวมสิ่งที่เปลี่ยนทั้งหมดกว่า 20 จุด


New Toyota Yaris ปี 2009 ใหม่ Minor Change สวยเก๋ มีให้เลือก 8 รุ่น

ขณะที่เครื่องยนต์ และระบบช่วงล่างยังคงเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง กับเครื่องเบนซิน รหัส 1 NZ-FE VVT-i ขนาดความจุ 1,500 ซีซี DOHC 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 109 แรงม้า (80 กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super ECT แบบ Gate Type ส่วนระบบกันสะเทือนหน้า แม็คเฟอร์สันสตรัท และระบบกันสะเทือนหลังแบบทอร์ชันบีม พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS ด้วยวงเลี้ยวที่แคบสุดเพียง 4.7 เมตร

ด้านความปลอดภัยยังคงครบถ้วนเหมือนเดิมด้วย ถุงลมนิรภัย SRS คู่สำหรรับคนขับ และผู้โดยสารด้านหน้า (มาตรฐานในทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น J) เข็มขัดนิรภัย ELR แบบ 3 จุด ทุกที่นั่ง พร้อมกลไกดึงกลับ และผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ (Pretensioner & Force Limiter) ในเข็มขัดนิรภัยคู่หน้า (ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น J) เบาะนั่งแบบ WIL Concept ช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการชนด้านหลัง ลดอาการบาดเจ็บบริเวณต้นคอ และแผ่นหลังตอนบน

โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA ดูดซับแรงกระแทก ลดความรุนแรงจากการชน ด้วยการกระจายแรงสู่ตัวถัง ระบบเบรค ABS ทำงานผสานกับระบบ EBD ปรับแรงดันน้ำมันเบรคแบบอิสระ 4 ล้อ แปรผันตามน้ำหนัก ที่กดลงแต่ละล้อในขณะนั้นๆ (ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น J) กุญแจรีโมท Immobilizer ป้องกันกุญแจเลียนแบบ ไม่ให้สามารถสตาร์ทเครื่องได้ โดยระบบจะตรวจสอบ ID Code ของกุญแจว่าตรงกับที่บันทึกไว้ใน ECU หรือไม่ (เฉพาะรุ่น S limited)

โตโยต้า ยาริส มาพร้อมกับสีสันให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ Super White II / Silver Metallic / Medium Silver Metallic / Super Red / Black Mica / และสีใหม่ Light Blue Mica Metallicสนนราคาปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมรุ่นละ 15,000 บาท เว้นรุ่น J ที่เพิ่มขึ้น 10,000 บาท


New Toyota Yaris ปี 2009 ใหม่ Minor Change สวยเก๋ มีให้เลือก 8 รุ่น

toyota new yaris ราคารถ Toyota โตโยต้า (ราคารถใหม่ ล่าสุด)

TOYOTA NEW YARIS

ราคารถ Toyota โตโยต้า


(ราคารถใหม่ ล่าสุด)

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยถึงการแนะนำรถยนต์นั่งคอมแพ็ค แฮทช์แบ็คยอดนิยม โตโยต้า ยาริส รุ่นปรับปรุงโฉม



TOYOTA NEW YARIS ราคารถ Toyota โตโยต้า


บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้แนะนำรถยนต์โตโยต้ายาริส คอมแพ็ค แฮทช์แบ็คยอดนิยม เข้าสู่ตลาดประเทศไทยตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2549 เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ พร้อมสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาดมากมายอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการ YARIS Marketing Plan & Seat Design Contest โครงการ YARIS Your Style Car Contest โครงการ YARIS WRAP ME Contest โครงการ YARIS IMC Plan Contest และ YARIS Customized Seat ที่ลูกค้าสามารถเลือกลายเบาะได้ตามใจชอบ โดยยาริสถือเป็นรถยนต์นั่งรุ่นสำคัญรุ่นหนึ่งของโตโยต้า ซึ่งนับตั้งแต่เปิดตัวมียอดขายในประเทศทั้งสิ้น กว่า 41,000 คัน (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2552)


TOYOTA NEW YARIS ราคารถ Toyota โตโยต้า

นายวุฒิกรกล่าวว่า "รถยนต์โตโยต้ายาริสรุ่นปรับปรุงโฉมนี้ ได้รับการออกแบบที่มุ่งเน้นในการตอบสนองวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ในทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยจุดเด่นมากมาย ทั้งดีไซน์ที่ล้ำสมัย โฉบเฉี่ยวทั้งภายในและภายนอก พร้อมระบบมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกที่สมบูรณ์แบบ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย ภายในห้องโดยสาร ที่มีอยู่มากมายหลายจุด"

ยาริสใหม่ ภายนอกสปอร์ตรอบคัน กันชนหน้าและหลังใหม่ กว้างขึ้นเพิ่มความเป็นสปอร์ต สเกิร์ตหน้า หลังใหม่ ลงตัวทุกมุมมอง (เฉพาะรุ่น S Ltd, S และ E Ltd) กระจังหน้าลายใหม่ ดีไซน์เรียวดูโฉบเฉี่ยว โคมไฟหน้าใหม่ใหญ่กว่าเดิมเพื่อความปลอดภัยยามค่ำคืน ไฟเลี้ยวกระจกมองข้าง เท่ห์แบบลงตัว พร้อมเพิ่มความปลอดภัยแก่เพื่อนร่วมถนน โคมไฟหลังดีไซน์ใหม่อินเทรนด์ด้วยไฟเลี้ยวสีส้ม เลนส์ไฟตัดหมอกหลังแบบใส ล้ออัลลอยใหม่ ลาย 8 ก้านขนาด 15 นิ้ว


TOYOTA NEW YARIS ราคารถ Toyota โตโยต้า

TOYOTA NEW YARIS ราคารถ Toyota โตโยต้า

TOYOTA NEW YARIS ราคารถ Toyota โตโยต้า

ภายในลงตัวด้วยพวงมาลัย3ก้านพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ความปลอดภัยที่แฝงมาพร้อมความสะดวกสบาย ช่องต่อสาย AUX ตอบสนองทุกความบันเทิงสมัยใหม่ ผ้าเบาะลายใหม่ สุขุม นุ่ม ลึก พื้นที่อเนกประสงค์ที่ลงตัวไปกับการใช้ชีวิต สะดวกสบาย ที่วางแก้วตำแหน่งคนขับ ช่องเก็บของด้านข้างประตู ถาดใส่ของอเนกประสงค์ ใต้คอนโซลด้านคนขับ ช่องเก็บของอเนกประสงค์บริเวณคอนโซลกลาง ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลท้ายพร้อมที่วางแก้วด้านหลังกล่องเก็บของเหนือพวงมาลัย กล่องเก็บของและลิ้นชักบริเวณผู้โดยสารด้านหน้า

เครื่องยนต์ พร้อมระบบกันสะเทือนชั้นเยี่ยม พลังขับเคลื่อนที่สมดุล จากพลังของเครื่องยนต์ ที่ให้อัตราเร่งโดดเด่น และประหยัดน้ำมัน 1 NZ-FE VVT-i 1,500 ซีซี DOHC 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 109 แรงม้า (80 กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ลื่นไหลทุกจังหวะการขับขี่ ด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super ECT แบบ Gate Type ให้ความนุ่มนวลขณะเปลี่ยนเกียร์ ควบคุมได้ดั่งใจ...ให้ทุกการเดินทางราบรื่น นุ่มนวล ด้วยระบบกันสะเทือนหน้า แม็คเฟอร์สันสตรัท และระบบกันสะเทือนหลังแบบทอร์ชั่นบีม คล่องตัว ทุกการควบคุม ปราดเปรียวเกินคาด พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ด้วยวงเลี้ยวที่แคบสุดเพียง 4.7 เมตร

TOYOTA NEW YARIS ราคารถ Toyota โตโยต้า

TOYOTA NEW YARIS ราคารถ Toyota โตโยต้า

มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก รองรับทุกเรื่องที่ไม่คาดฝัน ด้วยถุงลมนิรภัย SRS ที่พร้อมปกป้องคนขับ และผู้โดยสารด้านหน้า จากการชนด้านหน้า (ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น J) ปลอดภัยยิ่งกว่า ด้วยเข็มขัดนิรภัย ELR แบบ 3 จุด ทุกที่นั่ง พร้อมกลไกดึงกลับ และผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ (Pretensioner & Force Limiter) ในเข็มขัดนิรภัยคู่หน้า (ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น J) เบาะนั่งแบบ WIL Concept ช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการชนด้านหลัง ลดอาการบาดเจ็บบริเวณต้นคอ และแผ่นหลังตอนบน โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA ดูดซับแรงกระแทก ลดความรุนแรงจากการชน ด้วยการกระจายแรงสู่ตัวถัง

เบรคสั่งได้มั่นใจยิ่งกว่า สัมผัสพลังการเบรคที่พร้อมมอบความมั่นใจ กับระบบเบรค ABS ที่ทำงานผสานกับระบบ EBD ปรับแรงดันน้ำมันเบรคแบบอิสระ 4 ล้อ แปรผันตามน้ำหนัก ที่กดลงแต่ละล้อในขณะนั้นๆ (ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น J) กุญแจรีโมท Immobilizer ป้องกันกุญแจเลียนแบบ ไม่ให้สามารถสตาร์ทเครื่องได้ โดยระบบจะตรวจสอบ ID Code ของกุญแจว่าตรงกับที่บันทึกไว้ใน ECU หรือไม่ (เฉพาะรุ่น S limited)


TOYOTA NEW YARIS ราคารถ Toyota โตโยต้า

6 สี สะท้อนความเป็นคุณ Super White II / Silver Metallic / Medium Silver Metallic / Super Red / Black Mica / และสีใหม่ Light Blue Mica Metallic โดยราคาของยาริสใหม่อยู่ที่...

TOYOTA NEW YARIS
• รุ่น S Limited เกียร์อัตโนมัติ ราคา 714,000 บาท
• รุ่น S เกียร์อัตโนมัติ ราคา 694,000 บาท
• รุ่น G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 674,000 บาท
• รุ่น E Limited เกียร์อัตโนมัติ ราคา 649,000 บาท
• รุ่น E เกียร์อัตโนมัติ ราคา 629,000 บาท
• รุ่น E เกียร์ธรรมดา ราคา 594,000 บาท
• รุ่น J เกียร์อัตโนมัติ ราคา 574,000 บาท
• รุ่น J เกียร์ธรรมดา ราคา 539,000 บาท
• Customized seat เพิ่ม 3,000 บาท (มีเฉพาะรุ่น J, E และ S เท่านั้น)

นายวุฒิกรกล่าวเพิ่มเติม "เรามั่นใจว่ายาริสรุ่นปรับปรุงโฉมนี้ จะสามารถเติมเต็มทุกความต้องการได้อย่างลงตัว จากจุดเด่นที่มีอยู่มากมาย เช่น ไฟเลี้ยวกระจกมองข้าง ช่องต่อสายAUX พื้นที่และอุปกรณ์ใช้สอยภายในที่ลงตัว เครื่องยนต์เบนซินระบบวาล์วอัจฉริยะ VVT-i ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ประหยัดน้ำมัน คล่องตัวด้วยวงเลี้ยวที่แคบสุดเพียง 4.7 เมตร ปลอดภัยด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA และระบบเบรคABS พร้อมEBD สะดวกสบายด้วยระบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย"

TOYOTA NEW YARIS
ก้าวข้ามทุกกฎเกณฑ์...สู่ตัวตนล้ำเทรนด์ที่เป็นคุณ ไปกับยาริสใหม่ My Style My Yaris 14-15 มีนาคมนี้ ที่ เซ็นทรัลเวิลด์ และโชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า 306 แห่งทั่วประเทศ


TOYOTA NEW YARIS ราคารถ Toyota โตโยต้า

เผยโฉม TOYOTA NEW YARIS ปรับเปลี่ยนใหม่ สปอร์ตเร้าใจกว่าเดิม

เผยโฉม TOYOTA NEW YARIS

ปรับเปลี่ยนใหม่ สปอร์ตเร้าใจกว่าเดิม



ย้อนไปเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้แนะนำรถยนต์โตโยต้ายาริส คอมแพ็คท์ แฮตช์แบ็กยอดนิยมเข้าสู่ ตลาดประเทศไทยตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2549 ซึ่งสร้างความฮือฮาให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ประเภทนี้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ทางโตโยต้าเองก็มีกิจกรรมการตลาดมากมายอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมการขายและโชว์ขีดความสามารถของรถ อาทิ โครงการ YARIS Marketing Plan & Seat Design Contest โครงการ YARIS Your Style Car Contest โครงการ YARIS WRAP ME Contest โครงการ YARIS IMC Plan Contest และ YARIS Customized Seat ที่ลูกค้าสามารถเลือกลายเบาะได้ตามใจชอบ โดยยาริสถือเป็นรถยนต์นั่งรุ่นสำคัญรุ่นหนึ่งของโตโยต้า ซึ่งนับตั้งแต่เปิดตัวมียอดขายในประเทศทั้งสิ้นกว่า 41,000 คัน
และเมื่อไม่นานมานี้ทางบริษัทได้ทำการเปิดตัวยาริสโฉมใหม่ออกมา โดยใช้สถานที่บริเวณลานด้านหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์จัดกิจกรรมการเปิดตัว โดยมีนายวุฒิกร สุรยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นประธาน โดยนายวุฒิกรได้กล่าวว่า รถยนต์โตโยต้า ยาริส รุ่นปรับปรุง โฉมนี้ ได้รับการออกแบบที่มุ่งเน้นในการตอบสนองวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ในทุกไลฟ์สไตล์ด้วยจุดเด่นมากมาย ทั้งดีไซน์ที่ล้ำสมัย โฉบเฉี่ยวทั้งภายในและภายนอก พร้อมระบบมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกที่สมบูรณ์แบบและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารที่มีอยู่มากมายหลายจุด
แน่นอนครับกับความเปลี่ยนแปลงที่เราเห็นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะภายนอกนั้นจะเน้นในเรื่องของชุดแต่งที่ออกแบบให้มีความเป็นสปอร์ตรอบคัน เป็นต้นว่า
- กันชนหน้าและหลังใหม่กว้างขึ้นเพิ่มความเป็นสปอร์ต
- สเกิร์ตหน้า-หลังใหม่ลงตัวทุกมุมมอง (เฉพาะรุ่น S Limited., S และ E Limited.)
- กระจังหน้าลายใหม่ดีไซน์เรียว ดูโฉบเฉี่ยว
- โคมไฟหน้าใหม่ใหญ่กว่าเดิม เพื่อความปลอดภัยยามค่ำคืน
- ไฟเลี้ยวกระจกมองข้าง เท่แบบลงตัว พร้อมเพิ่มความปลอดภัยแก่เพื่อนร่วมถนน
- โคมไฟหลังดีไซน์ใหม่ อินเทรนด์ด้วยไฟเลี้ยวสีส้ม และเลนส์ไฟตัดหมอกหลังแบบใส
- ล้ออัลลอยใหม่ ลาย 8 ก้าน ขนาด 15 นิ้ว
ในส่วนของภายในถือว่าออกแบบได้อย่างลงตัวไม่น้อยหน้าภายนอก ซึ่งการแต่งใหม่นี้ยังคงเน้นความเป็นสปอร์ตตามคอนเซ็ปต์ของรถซึ่งเห็นได้จาก
- พวงมาลัย 3 ก้านพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ความปลอดภัยที่แฝงมาพร้อมความสะดวกสบาย
- ช่องต่อสาย AUX ตอบสนองทุกความบันเทิงสมัยใหม่
- ผ้าเบาะลายใหม่ สุขุม นุ่ม ลึก
- พื้นที่อเนกประสงค์ที่ลงตัวไปกับการใช้ชีวิต สะดวกสบาย ที่วางแก้วตำแหน่งคนขับ ช่องเก็บของด้านข้างประตู ถาดใส่ของอเนกประสงค์ ใต้คอนโซลด้านคนขับ ช่องเก็บของอเนกประสงค์บริเวณคอนโซลกลาง ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลท้ายพร้อมที่วางแก้วด้านหลังกล่องเก็บของเหนือพวงมาลัย กล่องเก็บของและลิ้นชักบริเวณผู้โดยสารด้านหน้า
สำหรับเครื่องยนต์ยังคงมาจากพลังของเครื่องยนต์ที่ให้อัตราเร่งโดดเด่นและประหยัดน้ำมัน รหัส 1 NZ-FE VVT-i 1,500 ซี.ซี. DOHC 16 วาล์วกำลังสูงสุด 109 แรงม้า (80 กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ Super ECT แบบ Gate Type ให้ความนุ่มนวลขณะเปลี่ยนเกียร์ พร้อมเพิ่มความนุ่มนวลด้วยระบบกันสะเทือนหน้า แม็คเฟอร์สันสตรัท และระบบกันสะเทือนหลังแบบทอร์ชั่นบีม ระบบบังคับเลี้ยวแม่นยำจากพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า EPS ด้วยวงเลี้ยวที่แคบสุดเพียง 4.7 เมตรเท่านั้น
มาตรฐานความปลอดภัยน่าสนใจด้วยการติดตั้งถุงลมนิรภัยแบบ SRS ที่พร้อมปกป้องคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า จากการชนด้านหน้า (ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น J) นอกจากนี้ยังร่วมด้วยเข็มขัดนิรภัย ELR แบบ 3 จุด ทุกที่นั่ง พร้อมกลไกดึงกลับและผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ (Pretensioner & Force Limiter) ในเข็มขัดนิรภัยคู่หน้า (ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น J)
เบาะนั่งแบบ WIL Concept ช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการชนด้านหลัง ลดอาการบาดเจ็บบริเวณต้นคอ และแผ่นหลังตอนบน โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA ดูดซับแรงกระแทก ลดความรุนแรงจากการชน ด้วยการกระจายแรงสู่ตัวถัง เบรกได้มั่นใจยิ่งกว่ากับระบบเบรก ABS ที่ทำงานผสานกับระบบ EBD ปรับแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิสระ 4 ล้อ แปรผันตามน้ำหนักที่กดลงแต่ละล้อในขณะนั้น ๆ (ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น J) รวมทั้งกุญแจรีโมต Immobilizer ป้องกันกุญแจเลียนแบบ ไม่ให้สามารถสตาร์ตเครื่องได้ โดยระบบจะตรวจสอบ ID Code ของกุญแจว่าตรงกับที่บันทึกไว้ใน ECU หรือไม่ (เฉพาะรุ่น S Limited)
สำหรับยาริสโฉมใหม่นี้สามารถเลือกได้ถึง 6 สี คือ Super White II/Silver Metallic/Medium Silver Metallic/Super Red/Black Mica/และสีใหม่ Light Blue Mica Metallic
ส่วนราคาค่าตัวเริ่มจากตัวแพงสุด รุ่น S Limi ted เกียร์อัตโนมัติ ราคา 714,000 บาท รุ่น S เกียร์อัตโนมัติ ราคา 694,000 บาท รุ่น G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 674,000 บาท รุ่น E Limited เกียร์อัตโนมัติ ราคา 649,000 บาท, รุ่น E เกียร์อัตโนมัติ ราคา 629,000 บาท, รุ่น E เกียร์ธรรมดา ราคา 594,000 บาท รุ่น J เกียร์อัตโนมัติ ราคา 574,000 บาท และรุ่น J เกียร์ธรรมดา ราคา 539,000 บาท


เผยโฉม TOYOTA NEW YARIS ปรับเปลี่ยนใหม่ สปอร์ตเร้าใจกว่าเดิม

NEW TOYOTA YARIS ท้าทายทุกสไตล์ชีวิต

NEW TOYOTA YARIS ท้าทายทุกสไตล์

เริ่มกันที่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้แนะนำรถยนต์นั่งคอมแพ็ค แฮทช์แบ็คยอดนิยมโตโยต้า ยาริสรุ่นปรับปรุงโฉม

หลังจากที่ได้แนะนำรถยนต์โตโยต้ายาริส คอมแพ็ค แฮทช์แบ็คยอดนิยมเข้าสู่ตลาดประเทศไทยตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2549 เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ พร้อมสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาดมากมายอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการ “YARIS Marketing Plan & Seat Design Contest” โครงการ “YARIS Your Style Car Contest” โครงการ “YARIS WRAP ME Contest” โครงการ “YARIS IMC Plan Contest” และ “YARIS Customized Seat” ที่ลูกค้าสามารถเลือกลายเบาะได้ตามใจชอบ

โดยยาริสถือเป็นรถยนต์นั่งรุ่นสำคัญรุ่นหนึ่งของโตโยต้า ซึ่งนับตั้งแต่เปิดตัวมียอดขายในประเทศทั้งสิ้นกว่า 41,000 คัน (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2552) รถยนต์โตโยต้ายาริสรุ่นปรับปรุงโฉมได้รับการออกแบบที่มุ่งเน้นในการตอบสนองวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ในทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยจุดเด่นมากมาย ทั้งดีไซน์ที่ล้ำสมัย โฉบเฉี่ยวทั้งภายในและภายนอก พร้อมระบบมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกที่สมบูรณ์แบบ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารที่มีอยู่มากมายหลายจุด

ภายนอก...สปอร์ตรอบคัน
NEW TOYOTA YARIS ท้าทายทุกสไตล์ชีวิต
การตกแต่งสำหรับ NEW TOYOTA YARIS เริ่มตั้งแต่กันชนหน้าและกันชนหลังใหม่ กว้างขึ้นเพิ่มความเป็นสปอร์ต สเกิร์ตหน้าและหลังใหม่ ลงตัวทุกมุมมอง (เฉพาะรุ่น S Ltd, S และ E Ltd) กระจังหน้าลายใหม่ ดีไซน์เรียว ดูโฉบเฉี่ยว โคมไฟหน้าใหม่ ใหญ่กว่าเดิม เพื่อความปลอดภัยยามค่ำคืน ไฟเลี้ยวกระจกมองข้าง เท่ห์แบบลงตัว พร้อมเพิ่มความปลอดภัยแก่เพื่อนร่วมถนน โคมไฟหลังดีไซน์ใหม่ อินเทรนด์ด้วยไฟเลี้ยวสีส้ม และเลนส์ไฟตัดหมอกหลังแบบใส และล้ออัลลอยใหม่ ลาย 8 ก้านขนาด 15 นิ้ว

ภายใน...ลงตัวเพื่อทุกคน
NEW TOYOTA YARIS ท้าทายทุกสไตล์ชีวิต
สำหรับภายในของ NEW TOYOTA YAIS โดดเด่นตั้งแต่พวงมาลัย 3 ก้านพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ความปลอดภัยที่แฝงมาพร้อมความสะดวกสบาย พร้อมช่องต่อสาย AUX ตอบสนองทุกความบันเทิงสมัยใหม่ ผ้าเบาะลายใหม่ สุขุม นุ่ม ลึก พื้นที่อเนกประสงค์ที่ลงตัวไปกับการใช้ชีวิต สะดวกสบาย ที่วางแก้วตำแหน่งคนขับ ช่องเก็บของด้านข้างประตู ถาดใส่ของอเนกประสงค์ ใต้คอนโซลด้านคนขับ ช่องเก็บของอเนกประสงค์บริเวณคอนโซลกลาง ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลท้ายพร้อมที่วางแก้วด้านหลังกล่องเก็บของเหนือพวงมาลัย กล่องเก็บของและลิ้นชักบริเวณผู้โดยสารด้านหน้า

เครื่องยนต์ พร้อมระบบกันสะเทือนชั้นเยี่ยม
NEW TOYOTA YARIS ท้าทายทุกสไตล์ชีวิต
ต่อกันด้วยพลังขับเคลื่อนที่สมดุล จากเครื่องยนต์ ที่ให้อัตราเร่งโดดเด่น และประหยัดน้ำมัน รหัส 1 NZ-FE VVT-i ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 1,500 ซีซี DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้า หรือ 80 กิโลวัตต์ ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที และลื่นไหลทุกจังหวะการขับขี่ ด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super ECT แบบ Gate Type ให้ความนุ่มนวลขณะเปลี่ยนเกียร์ ควบคุมได้ดั่งใจ...ให้ทุกการเดินทางราบรื่น นุ่มนวล ด้วยระบบกันสะเทือนหน้า แม็คเฟอร์สันสตรัท และระบบกันสะเทือนหลังแบบทอร์ชั่นบีม คล่องตัว ทุกการควบคุม ปราดเปรียวเกินคาด พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ด้วยวงเลี้ยวที่แคบสุดเพียง 4.7 เมตร

มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก
NEW TOYOTA YARIS ท้าทายทุกสไตล์ชีวิต
NEW TOYOTA YARIS รองรับทุกเรื่องที่ไม่คาดฝัน ด้วยถุงลมนิรภัย SRS ที่พร้อมปกป้องคนขับ และผู้โดยสารด้านหน้า จากการชนด้านหน้า (ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น J) ปลอดภัยยิ่งกว่า ด้วยเข็มขัดนิรภัย ELR แบบ 3 จุด ทุกที่นั่ง พร้อมกลไกดึงกลับ และผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ (Pretensioner & Force Limiter) ในเข็มขัดนิรภัยคู่หน้า (ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น J)

เบาะนั่งแบบ WIL Concept ช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการชนด้านหลัง ลดอาการบาดเจ็บบริเวณต้นคอ และแผ่นหลังตอนบน โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA ดูดซับแรงกระแทก ลดความรุนแรงจากการชน ด้วยการกระจายแรงสู่ตัวถัง

เบรคสั่งได้มั่นใจยิ่งกว่า สัมผัสพลังการเบรคที่พร้อมมอบความมั่นใจ กับระบบเบรค ABS ที่ทำงานผสานกับระบบ EBD ปรับแรงดันน้ำมันเบรคแบบอิสระ 4 ล้อ แปรผันตามน้ำหนัก ที่กดลงแต่ละล้อในขณะนั้นๆ (ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น J) กุญแจรีโมท Immobilizer ป้องกันกุญแจเลียนแบบ ไม่ให้สามารถสตาร์ทเครื่องได้ โดยระบบจะตรวจสอบ ID Code ของกุญแจว่าตรงกับที่บันทึกไว้ใน ECU หรือไม่ (เฉพาะรุ่น S limited)

6 สี สะท้อนความเป็นคุณ
NEW TOYOTA YARIS ท้าทายทุกสไตล์ชีวิต
NEW TOYOTA YARIS มาในรูปลักษณ์ 6 สี สะท้อนความเป็นตัวตนของคุณด้วยสี Super White II / Silver Metallic / Medium Silver Metallic / Super Red / Black Mica และสีใหม่ Light Blue Mica Metallic

ยาริสใหม่พร้อมให้คุณครอบครองแล้ว ด้วย 5 รุ่น คือ รุ่น S Limited เกียร์อัตโนมัติ ราคา 714,000 บาท และรุ่น Sเกียร์อัตโนมัติ ราคา 694,000 บาท รุ่น G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 674,000 บาท รุ่น E Limited เกียร์อัตโนมัติ ราคา 649,000 บาท รุ่น E เกียร์อัตโนมัติ ราคา 629,000 บาท รุ่น E เกียร์ธรรมดา ราคา 594,000 บาท รุ่น J เกียร์อัตโนมัติ ราคา 574,000 บาท รุ่น J เกียร์ธรรมดา ราคา 539,000 บาท

Customized seat เพิ่ม 3,000 บาท (มีเฉพาะรุ่น J, E และ S เท่านั้น)

NEW TOYOTA YARIS ท้าทายทุกสไตล์ชีวิต

First Drive: 2007 Toyota Yaris

First Drive: 2007 Toyota Yaris



We'll be blunt; we haven't given much love to the Toyota Echo, a car that was non-affectionately dubbed "The Clown Car" by this writer. Its tall roof and pudgy body made us think a dozen goofballs with frizzy orange hair and jumbo shoes would spill out when the doors opened. Mediocre cabin trim and shaky handling didn't help either.

Now comes the Echo's overdue replacement, the 2007 Toyota Yaris. With the new Yaris (yes, the name Echo is gone), Toyota steps things up in every way. Rather than having the two-door liftback and four-door essentially differing only in body style, two separate teams developed each version of the Yaris, giving them different personalities.

Aww, isn't it cute?
Look at the Liftback and you can't help but smile at its cuteness. It reminded us a little of the Yaris' cousin, the Scion xA, a car that one editor referred to as looking like "a big-headed toddler." Look at those big eyes and that happy face. Although shorter than the outgoing Echo coupe, the Yaris Liftback has a wheelbase over 3 inches longer (96.9 inches vs. 93.3 inches).

The four-door aims for a mini sport sedan look and is now longer (169.3 inches vs. 164.6 inches), lower (56.7 inches vs. 59.1 inches) and wider (66.5 inches vs. 65.4 inches), which relieves it of the comic proportions of the Echo sedan. As with the Liftback, the sedan's wheelbase was also stretched (100.4 inches vs. 93.3 inches). The net result is a handsome little sedan that doesn't scream "entry-level" like the Echo.

With a coefficient of drag of just 0.29, both the sedan and Liftback slip through the air with ease, promising a quieter ride and greater fuel economy at freeway speeds.

Fraternal, not identical twins
So different are the two Yaris models that they don't even share dash panels. The Liftback has three gloveboxes — two on the passenger side and one on the driver side, a benefit of the center-mounted instruments. To optimize passenger and legroom, the Liftback also features reclining rear seats that slide nearly 6 inches fore and aft.

The sedan's cabin has a more upscale feel with features like "Optitron" illuminated gauges, a two-tone color treatment, height-adjustable front seats and, on the S, a 60/40-split rear seat with a fold-down center armrest.

The Yaris sedan can be had in either base or sporty S trim levels. The base sedan comes with air conditioning, a tilt steering wheel, intermittent wipers, six-way (manual) adjustable driver seat and dual vanity mirrors. Move up to the S and an AM/FM/CD system (with an MP3 audio jack), rear defroster, 60/40-split-folding rear seat, lower body skirting and 15-inch wheels (replacing the 14s) are added. The optional Convenience Package for the base sedan adds AM/FM/CD with MP3 jack, 15-inch wheels, rear defroster and the 60/40 rear seat. A mini luxury sedan is yours if you opt for the Power Package, which provides power windows/locks/mirrors, cruise control, upgraded interior, ABS, and a tachometer for automatic-equipped cars (it's standard on five-speed manuals).

Smooth as a sewing machine
The Liftback comes in just one base trim level which has air conditioning, tilt steering wheel and intermittent wipers. The Convenience Package adds AM/FM/CD with MP3 jack, rear defroster and 15-inch wheels while the Performance Package adds ABS, power windows/locks/mirrors and a 60/40-split-folding rear seat that also reclines and slides fore and aft to optimize passenger or cargo room.

We sampled both powertrains, and found the manual gave the Yaris a peppy, sporty feel. The engine stays smooth and vibration-free, even at high rpm. We took the engine to redline again and again and never felt like we were thrashing the car. Both the gearshift and clutch action are light and the gearshift knob doesn't vibrate, whether at idle or while running at 75 mph on the freeway.

As expected, the automatic sapped some of the fun, as off-the-line performance is blunted. But like the manual, it has decent midrange pull and has no problem getting up to and cruising at 75-80 mph on the highway.

We laid into the brakes hard a few times from around 55 mph and found an easily modulated pedal with reassuring braking power. All Yarii have disc brakes in the front and drum brakes in the rear, but the cars we drove had the optional ABS.

At highway speeds we noticed a difference between the Liftback and the S sedan. The sedan was quieter while the Liftback let more road rumble into the cabin. Both absorbed freeway expansion joints without drama, adding to the relaxed demeanor at cruising speeds.

Well-sorted suspension
With the suspension stiffened by 47 percent over the Echo, the Yaris feels buttoned-down and dare we say fun on curvy roads. The suspension design is nothing earth-shattering — tried-and-true MacPherson struts up front and a torsion beam out back. But with redesigned bushings, a single upper mounting point for the front struts (rather than three as in the Echo), the firmer calibrations and a lower center of gravity, the Yaris doesn't even feel related to its wallowing forebear. There's no slop in the Yaris' handling and the revamped suspension and longer wheelbases provide a smoother ride.

Helping to optimize fuel-efficiency is the electric power steering setup that takes away the engine-driven hydraulic pump of traditional power steering systems. Unlike some other systems of this kind, the Yaris' has a natural, crisp feel with even weighting.

Just in time…
As good as it is, the 2007 Toyota Yaris (which goes on sale in April 2006) will be facing some strong competition. Firm pricing was not yet available as of press time, but Toyota execs indicated that it will start under $13,000. With the recently introduced and well-built 2006 Kia Rio and Hyundai Accent and forthcoming 2007 Honda Fit and Nissan Versa, Toyota has replaced the Echo just in time. With a healthy dose of upgrades in style, handling and refinement, the Yaris puts Toyota in good standing for the upcoming economy car war.

Toyota Yaris 3-door France, go on sale in Japan in 2011

Toyota Yaris 3-door

go on sale in Japan in 2011



Toyota Yaris Liftback – Click above for high-res image gallery

Toyota's got hybrids on the brain. Already the undisputed leader in the gas-electric vehicle market, Asahi (via Reuters) reports the Japanese automaker is planning to launch a new compact hybrid based on the next-gen Yaris platform and due to go on sale in Japan for 1.5 million yen ($15,760) by 2011. That bargain-basement price will be made possible by a low-cost version of Toyota's Hybrid Synergy Drive, used in the current Prius and featuring a downsized four-cylinder engine that may make it even more fuel efficient than its larger sibling.

In addition to production plants in its home market of Japan, the report indicates that Toyota may also assemble the compact hybrid in France for the European market. This news comes just weeks after Toyota officially announced its intentions to build a hybrid version of its Auris hatchback in the United Kingdom. We certainly wouldn't be surprised if Toyota imported either of the new hybrids to the States in light of the success it's seen with the Prius.

It's expected that the new Yaris-based hybrid will go head-to-head with Honda's recently announced Fit Hybrid. While Toyota's interest in hybrid technology is anything but new, the fuel-saving models have just recently earned the top sales spots in Japan and are expected to be increasingly important in over the next few years as the latest round of strict emissions and fuel economy requirements are implemented worldwide.



Toyota Yaris 3-door France, go on sale in Japan in 2011

เปิดตัวโตโยต้า ยาริสใหม่[toyota new yaris]

เปิดตัวโตโยต้า ยาริสใหม่


"โตโยต้า"บุกตลาดยกแรกด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ “ยาริส” ภายใต้คำจำกัดความYaris ...Be Groovy ตอบสนองคนรุ่นใหม่
โดยยึดปรัชญาการออกแบบ “Vibrant Clarity” ภายใต้องค์ประกอบหลัก 4 ประการ “PASS” ในการสร้างสรรค์ได้แก่

P- Proportion …..การออกแบบเพื่อความสดใหม่ ในแต่ละมุมมองของตัวรถ
A-Architecture ….การออกแบบด้วยเส้นสายที่เฉียบคม ล้ำสมัย
S-Surface….. การออกแบบที่แฝงไว้ด้วยความแข็งแกร่ง
S-Something special …. การออกแบบโดยรวม ที่สะท้อนความพิเศษของรถคันนี้


ยาริส เป็นรถเก๋งซับคอมแพกต์แบบ 5 ประตู 1.5 ลิตร หวังชนกับแจ๊ซ ซึ่งเป็นเจ้าตลาดอยู่ขณะนี้..รูปลักษณ์ภายนอกของยาริสดีไซน์แบบโค้งมนดูน่ารัก ,กระจังหน้าสปอร์ตลายรังผึ้ง,ไฟหน้าแบบสปอร์ต ไฟท้ายก็สวยสะดุดตา พร้อมไฟเบรคแบบ LED

ภายในห้องโดยสาร เริ่มจาก มาตรวัดออพตริตรอนจัดวางในตำแหน่งกลางคอนโซล,แผงควบคุมเครื่องปรับอากาศสไตล์ Vertical ,ช่องแอร์ขนาดใหญ่และที่สำคัญที่นั่งเบาะหลังสามารถเลื่อนสไลด์และพับเก็บไปข้างหน้าได้ราบเรียบ แบบแยกส่วน 60-40 เหมือนกับฮอนด้า แจ๊ซ


เปิดตัวโตโยต้า ยาริสใหม่[toyota new yaris]
อีกทั้งยังมีพื้นที่ใช้สอยภายในอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นที่วางแก้วตำแหน่งคนขับ ,ช่องเก็บของด้านข้างประตู,ถาดใส่ของอเนกประสงค์ใต้คอนโซลด้านคนขับ,ช่องเก็บของอเนกประสงค์บริเวณคอนโซลกลาง,ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลท้าย พร้อมที่วางแก้วด้านหลัง,กล่องเก็บของเหนือพวงมาลัย,กล่องเก็บของและลิ้นชักบริเวณผู้โดยสารด้านหน้า

สำหรับเครื่องยนต์เป็นเครื่องเดียวกับวีออส คือ 1NZ-FE VVT-i 1500 ซีซี DOHC 16 วาล์ว 109 แรงม้า ที่ 6000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตรที่ 4200 รอบต่อนาที

เกียร์อัตโนมัติ Super ECT แบบ Gate Type , ระบบกันสะเทือนหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท และระบบกันสะเทือนหลังแบบทอร์ชั่นบีม,พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ด้วยวงล้อที่แคบสุดเพียง 4.7 เมตร

ด้านความปลอดภัยมีครบตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก Euro NCAP เช่น ถุงลมนิรภัย SRS ด้านคนขับ,เข็มขัดนิรภัย ELR แบบ 3 จุด ทุกที่นั่ง


เปิดตัวโตโยต้า ยาริสใหม่[toyota new yaris]
เบาะนั่งแบบ WIL Concept ช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการชนด้านหลัง ลดอาการบาดเจ็บบริเวณต้นคอ และแผ่นหลังตอนบน,ระบบเบรค ABS ,กุญแจรีโมท Immobilizer ป้องกันกุญแจเลียนแบบไม่ให้สามารถสตาร์ทเครื่องได้ โดยระบบจะตรวจสอบ ID Code ของกุญแจว่าตรงกับที่บันทึกไว้ใน ECU หรือไม่



โตโยต้า ยาริส มี 7 สีให้เลือก
เปิดตัวโตโยต้า ยาริสใหม่[toyota new yaris]
Platinum Silver: สีบรอนซ์เงิน

Mercury Silver: สีเทาดำ

Aqua Blue: สีฟ้าอ่อน

Pacific Blue: สีน้ำเงินเข้ม

Tropical Orange: สีส้มทอง

PacAlpha Red: สีแดงสด

Black Magic: สีดำ



แบ่งเป็น 3 รุ่น 4 รุ่นย่อย ได้แก่

รุ่นมาตรฐาน E มีทั้งเกียร์อัตโนมัติ และเกียร์ธรรมดาให้เลือก

รุ่นพรีเมี่ยม เกียร์อัตโนมัติ แบ่งเป็นรุ่น S

และ S Limited ตกแต่งด้วยชุดสปอร์ตรอบคันจากโรงงาน ตอบสนองคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบสไตล์สปอร์ต

และอีกรุ่นเป็น G และ G Limited ที่เพิ่มอุปกรณ์สะดวกสบายเฉกเช่นรถหรูทั่วไป
เปิดตัวโตโยต้า ยาริสใหม่[toyota new yaris]


สำหรับชุดแต่งแบบสปอร์ตในรุ่น S-Limited ประกอบไปด้วย
ชุดแต่งสเกิร์ตด้านข้าง,สเกิร์ตกันชนด้านหลัง,สเกิร์ตกันชนหน้า,สปอยเลอร์บนหลังคา,ไฟหน้าแบบ HID ,ชุดแต่งภายในแบบสปอร์ต โทนสีดำ พร้อมตกแต่งแผงคอนโซลกลางแบบ Black Glossy Sport ,

พวงมาลัยสปอร์ตหุ้มหนังแท้,เบาะผ้าดีไซน์สปอร์ต,หัวเกียร์หุ้มหนัง,ดิสก์เบรก 4 ล้อ ,ล้ออัลลอยด์ 16 นิ้ว ,ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต..โช้คอัพและสปริงปรับแต่งพิเศษ ทำให้เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ

ในรุ่น G, G Limited ประกอบไปด้วย เบาะผ้าดีไซน์สปอร์ต,ปุ่มสตาร์ท,ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry

แต่ในรุ่น G Limited จะมีปุ่มสตาร์ทใหม่ล่าสุด จุดระเบิดความแรงได้เพียงปลายนิ้ว และระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry เปิดล็อคประตูรถอัตโนมัติเพียงแค่อยู่ใกล้ในรัศมีสัญญาณ

เปิดตัวโตโยต้า ยาริสใหม่[toyota new yaris]
ราคาจำหน่ายของโตโยต้า ยาริส
1.5S Limited เกียร์ออโต 749,000
1.5S เกียร์ออโต 719,000 บาท
1.5G Limited เกียร์ออโต 739,000 บาท
1.5G เกียร์ออโต 699,000 บาท
1.5E เกียร์ออโต 634,000 บาท
1.5E เกียร์ธรรมดา 599,000 บาท

รายการบล็อกของฉัน