เบื้องต้นข้อมูลรถใหม่ TOYOTA Mitsubishi Nissan Honda

เทิคนิคการเบรกให้ปลอดภัย

เทิคนิคการเบรกให้ปลอดภัย
เบรกอย่างไรให้ปลอดภัย…!
การเบรกแบ่งเป็น 2 แบบหลัก คือ เบรกเพื่อชะลอความเร็ว และเบรกเพื่อหยุด เพื่อความปลอดภัย ก่อนการ เบรกควรประเมินสถานการณ์ด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อให้น้ำหนักในการเบรกเป็นไปอย่างเหมาะสม

การเบรกเพื่อชะลอความเร็ว น้ำหนักในการเบรกต้องสัมพันธ์กับความเร็วของรถยนต์คันอื่น ไม่ควรกดเบรก หนักจนความเร็วลดลงมากเกินไปเพราะจะสิ้นเปลืองเวลาและน้ำมันเชื้อเพลิงในการเร่งความเร็ว แต่ไม่ควร แตะเบรกเบาเกินไปจนขาดความปลอดภัย
การเบรกเพื่อหยุดในสภาพปกติ ควรแตะเบรกล่วงหน้าเพื่อใช้ไฟเบรกเตือนให้รถยนต์คันหลังเตรียมตัวเบรก ไม่ควรขับเข้าไปใกล้คันหน้าและกดเบรกอย่างรุนแรง เพราะล้ออาจล็อกจนเสียการทรงตัว และทำให้เกิด ความสึกหรอในชุดเบรกสูง หรือรถยนต์คันหลังอาจเบรกไม่ทันจนชนท้าย
ส่วนการเบรกในสถานะการณ์ฉุกเฉิน ควรหยุดให้ใกล้รถยนต์คันหน้ามากที่สุด เพื่อรถยนต์ที่ตามมาด้าน หลังจะได้มีระยะเบรกมากขึ้น
สำหรับรถยนต์เกียร์ธรรมดา ต้องเหยียบคลัตช์เมื่อรถยนต์เกือบหยุดแล้วเท่านั้นเพราะการเหยียบเบรกพร้อม กับการเหยียบคลัตช์นั้น เปรียบเสมือนการเบรกพร้อมกับปลดเกียร์ว่าง เครื่องยนต์ที่ถูกปลดออกจากการขับ เคลื่อน ไม่สามารถหน่วงช่วยการเบรกได้ รถยนต์จะมีแรงเฉื่อยเพิ่มขึ้น เบรกทำงานหนักขึ้น และระยะทาง การหยุดเพิ่มขึ้น

การเบรกในขณะที่ยังค้างอยู่ในเกียร์ขับเคลื่อน
เครื่องยนต์จะใช้รอบการหมุนหน่วงความเร็วของตัวรถยนต์ไว้ด้วย จึงควรเริ่มเหยียบคลัตช์เมื่อรถยนต์ใกล้ หยุดสนิท เพื่อไม่ให้เครื่องยนต์ดับส่วนเกียร์อัตโนมัติก็กดเบรกอย่างเดียว ไม่ควรปลดเกียร์ว่างแล้วเบรก เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายในชุดเกียร์
การลดเกียร์ลงต่ำเพื่อช่วยเบรกเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
เพราะทำให้รอบเครื่องยนต์สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เกิดความสึกหรอมากกว่าปกติ หรือเกิดความเสียหายได้ ล้อขับเคลื่อนที่หมุนด้วยความเร็ว เมื่อถูกหน่วงด้วยเครื่องยนต์ เพลาขับจะได้รับ แรงบิดสูงอาจทำให้เพลาขับสึกหรอมากกว่าปกติ

การขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูง เป็นความรื่นรมย์ของผู้ขับบางคน โดยอาจลืมนึกถึงระยะที่ต้องใช้ในการเบรก หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน

การใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด คือ ประมาณ 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะทาง 1 กิโลเมตร ใช้เวลา 36 วินาที ภายใน 1 วินาที จะแล่นไปได้ 28 เมตร เมื่อเปรียบเทียบกับสนามฟุตบอลมาตรฐาน ความยาวประ มาณ 100 เมตร จะแล่นผ่านภายในเวลา 3.6 วินาที

การขับด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง บนถนนแห้ง เมื่อผู้ขับเห็นอุปสรรคด้านหน้าและต้องการเบรก จะใช้เวลาตอบสนองตั้งแต่เริ่มมองเห็นจนเท้าแตะเบรกประมาณ 0.6 วินาที หรือคิดเป็นระยะทางก่อนกด เบรก 17 เมตร และระยะทางหลังกดเบรก 85 เมตร รวมระยะทางที่ใช้หยุด 102 เมตร แต่ถ้าผิวถนนเปียก หรือผู้ขับมีการตอบสนองช้า ระยะทางที่ใช้หยุดก็จะเพิ่มขึ้น
เทิคนิคการเบรกให้ปลอดภัย

ที่มา : sawangsangtam.ueuo.com

รายการบล็อกของฉัน