เบื้องต้นข้อมูลรถใหม่ TOYOTA Mitsubishi Nissan Honda

hyundai sonata

Roadfly.com - 2009 Hyundai Sonata Limited

Hyundai Sonata Video Review - Kelley Blue Book

NEW HYUNDAI SONATA 2.0-2.4
ติดขอบสนามทดสอบ "ฮุนได โซนาต้า" รุ่นล่าสุด เคาะค่าตัวที่....... บาท
เป็นเรื่องที่น่ายินดี เมื่อตลาดรถยนต์ประเทศไทยมีการแข่งขันสูงขึ้นในช่วงนี้ ส่อแววว่าในปีหน้าจะมีไฮไลต์ใหม่ ๆ ในการแข่งขันชิงเค้กชิ้นโต อย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้ ฮุนได้ประกาศการเข้ามาทำแบรนด์ใหม่พร้อมกับเปิดโชว์รูมใหม่แห่งแรกอย่างเป็นทางการ แถมยังพกสินค้าใหม่ "โซนาต้า" มาอวดความเป็นรถเกาะหลีระดับหรู ให้ได้สัมผัสเป็นการชิมลางก่อนเปิดตัวไปไม่นานนี้
โซนาต้า ฮุนไดพยายามผลักดันนำเสนอความเป็นรถยนต์นั่งสำหรับครอบครัว ซึ่งจากความเป็นรถเกาหลีที่หันมาใส่ใจในเรื่องดีไซน์มากขึ้น โดยวางคอนเซ็ปต์ไว้เป็นรถยนต์ที่มีความหรูหราสไตล์ยุโรป ห้องโดยสารกว้างขวาง เน้นความสะดวกสบายในการขับขี่ และความปลอดภัยที่มั่นใจได้ เพียบพร้อมด้วยประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลาย ดังนั้น เมื่อมองดูตามแนวคิดนี้บ่งบอกได้ว่ากลุ่มลูกค้าของ "โซนาต้า" ย่อมเป็นคนทำงานและประสบความสำเร็จในชีวิต พร้อมมีครอบครัวอันแสนอบอุ่น ตามที่ฮุนไดคุยว่า "โซนาต้า" คันนี้ พร้อมจะเป็น "ยนตรกรรมคู่กาย ที่จะเป็นเพื่อนแท้ในทุกวินาที บนความสำเร็จอีกระดับของคุณ" แล้วคุณมองว่าอย่างไรล่ะ แน่นอนคู่แข่งที่ฮุนไดต้องเจออย่างเลี่ยงไม่ได้ซึ่งทางญี่ปุ่นถือครองความสำเร็จตรงนี้มานาน สิ่งที่จะดึงเอาจุดขายมาชิงตลาดนี้ มีเพียงอย่างเดียวคือ ความคุ้มค่าในราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งทางฮุนไดคงเล็งเห็นตั้งแต่ต้น เพราะรถคันนี้ประกอบในไทย แต่ราคาจะเปิดกันที่เท่าไรดี

บิ๊กซีดานของคนเอเชีย หันมามองยุโรปเป็นตัวอย่าง

คงพูดได้เต็มปากว่า "สวยขิ้นชิบ" ไม่ว่าจะจอดนิ่งหรือเคลื่อนไหว ที่เกิดขึ้นจากแนวคิดการออกแบบที่หันมามองเรื่องเส้นสายใส่เข้าไปตั้งแต่หน้าจดหลัง ให้มีความรู้สึกเย้ายวน แต่ยังสะท้อนถึงพลังที่เต็มเปี่ยม ภายใต้แนวเส้นที่เรียบง่ายแต่บ่งบอกได้ลึกซึ้งถึงความรู้สึกภายใน...แล้วฮุนได ทำได้อย่างไร ??? ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้ายันไฟท้าย ได้รับการออกแบบมาพิเศษระดับโลก ที่พูดอย่างนี้ได้เพราะว่าช่วงที่ผ่านมา ฮุนไดไม่เพียงก้าวออกสู่ตลาดเอเชียเท่านั้น เช่นเดียวกับแบรนด์อื่นของเกาหลีหันมาเล่นสู่ตลาดโลก ซึ่งสิ่งที่ทำให้ฮุนไดประสบความสำเร็จกับ "โซนาต้า"นั้น ต้องยอมรับว่ามองการณ์ไกล จากที่ลงทุนพัฒนาศูนย์วิจัยพัฒนาออกแบบ R&D ให้กระจายอยู่ทั่วโลก อย่างในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือในแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี ทำให้เกิดดีไซเนอร์และวิศวกรมากมาย นำความคิดที่ได้จากศูนย์ต่าง ๆ มาต่อยอด ออกมาเป็นฮุนได "โซนาต้า" อย่างที่เห็น
โซนาต้าจึงมีรูปลักษณ์ใหม่ที่โดดเด่นสะดุดตา ตั้งแต่กระจังหน้าที่ใช้โครเมียม ให้ความรู้สึกที่หรูหรา ต่อเนื่องกับลายเส้นฝากระโปรงหน้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของฮุนไดทุกรุ่น โดยรอบข้างเน้นความเรียบง่าย แต่แอบเก๋ไก ดูคลาสสิก ส่วนลายเส้นของกันชนหน้าและหลัง ผู้ออกแบบนำเส้นของตัวอักษร Z มาใช้ในการออกแบบ อย่างในด้านท้ายให้อารมณ์สปอร์ตได้ดี และในส่วนของฝากระโปรงท้ายยังถูกยกสูงขึ้น แถมกันชนด้านหลังยังขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียว แล้ว 2.0 EL กับ 2.4 EXE ต่างกันอย่างไร ลองสังเกตกระจังหน้าดูว่าไม่เหมือนกัน

อารมณ์ผู้บริหารแฝงความเป็นรถครอบครัว

รถระดับนี้ลูกค้าต้องการอะไร ความหรูหรา เทคโนโลยี หรือรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีประโยชน์ ทั้งหมดนี้สามารถหาดูได้ในรถรุ่นใหม่ที่วิ่งออกมา แต่ "โซนาต้า" ทำอย่างไรให้แตกต่าง ถึงจะสู้กับคู่แข่งได้ ฮุนไดนำเสนอความเป็นกันเองกับผู้โดยสาร ให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงความเรียบง่าย การควบคุมเป็นไปอย่างราบรื่น

ปุ่มควบคุมที่จำเป็นถูกวางอย่างเป็นระเบียบ ใช้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส สีสันภายในเป็นแบบทูโทนที่ไปในทางเดียวกัน ไม่ได้ตัดกัน ทั้ง 2 รุ่น อย่างในตัว 2.0 EL จะได้เป็นภายในสีเทาทูโทน เสริมด้วยชุดแต่งลายสปอร์ต ส่วนตัว 2.4 EXE จะเป็นสีครีมทูโทนเข้ากับลายไม้สีเข้ม
ด้านพื้นที่ห้องโดยสาร ด้วยฐานล้อที่ยาวถึง 2,730 มม. เท่ากับมีพื้นที่ถึง 3 ลบ.ซม. ส่วนคู่แข่งในระดับเดียวกันอยู่ที่ 2.7-2.9 ลบ.ซม. ฮุนไดนำจุดนี้มาเป็นตัวชูโรงว่า แม้มีผู้โดยสารถึง 5 คน ยังนั่งสบายไม่อึดอัด ช่องประตูยังเปิดได้กว้าง ทำให้การเข้า-ออกสะดวกมากกว่าทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แถมยังมีลูกเล่นเบาะหลังสามารถพับเก็บราบหรือแบ่งพับ 60/40 ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระได้อีก แต่จุดขายยังไม่หมดเมื่อรถยนต์ระดับยูโรเปียนดีไซน์ ไหนล่ะจะลืมเรื่องเสียงที่ผ่านเข้ามา ซึ่งทีมงานได้เล็งเห็น จนทำให้ "โซนาต้า" ผู้ขับขี่จะมีสมาธิขณะขับรถ และลดความตึงเครียดเวลาต้องอยู่ในห้องโดยสารนาน ๆ จากความเงียบสงบที่ทำได้อย่างดี
ต่อเนื่องจากความเงียบ เมื่อทีมวิศวกรวางจุดเริ่มแนวคิดในการพัฒนาช่วงล่างให้เหมาะสมกับลูกค้าที่ชอบการเกาะถนนในสโตล์รถยุโรป ด้วยช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ หน้าเป็นแบบดับเบิลวิชโบน พร้อมหลังแบบมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลงหน้า-หลัง ซึ่งเป็นการปรับใหม่จากรุ่นก่อนที่โช้คอัพและสปริงรวมอยู่ด้วยกัน ฉะนั้นรุ่นใหม่จะแยกกันออกมาคนละส่วน ทำให้ช่วงล่างแบบใหม่พร้อมรับกับทุกสภาพถนน โดยเน้นความนุ่มนวลและความมั่นคงตามสไตล์รถยุโรป ด้วยระบบบังคับเลี้ยวที่แม่นยำมาก ควบคุมได้อย่างง่ายดาย แบบแร็ค แอนด์ พิเนี่ยน พร้อมเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรง ยังมีระบบปรับน้ำหนักพวงมาลัยตามรอบเครื่องยนต์ มีน้ำหนักเบาที่รอบต่ำ ทำให้คล่องตัวสูง เวลาอยู่ในเมืองที่มีการจราจรติดขัด หรือเวลาต้องจอดรถในที่แคบ ๆ แต่เมื่อความเร็วสูงขึ้น กลับกันพวงมาลัยจะหนัก เพื่อความมั่นคงในการขับขี่

ช่วงล่างดี เครื่องยนต์แรงพร้อมวาล์วแปรผัน

ด้วยพัฒนาการที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ทีมวิศวกรฮุนไดได้ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุด ทำงานอย่างละเอียดในทุกขั้นตอนอย่างพิถีพิถันในการพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่ฝาสูบ ไปจนถึงถาดน้ำมันเครื่อง สร้างแหล่งกำเนิดอีกระดับของพลัง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเครื่องยนต์ใหม่ จะเป็นเครื่องยนต์อันทรงพลัง มีมลพิษต่ำ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เครื่องยนต์อะลูมินัมอัลลอยที่มีน้ำหนักเบา พร้อมเพลาถ่วงสมดุลคู่ ช่วยให้เครื่องเดินเรียบ และเงียบสนิท พร้อมอีกระดับของความทนทาน และความประหยัด ด้วยการเคลือบสาร Molybdenum ที่ลูกสูบ เพื่อลดแรงเสียดทานภายในห้องเครื่องยนต์ ลดภาระของเครื่องยนต์ ส่งผลดีในระยะยาว ซึ่งเทคโนโลยีนี้ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ มีใช้เฉพาะในรถแข่งพลังแรงสูง เครื่องยนต์ V8 ที่เข้าแข่งขันในรายการ The Infinity Indy Racing ของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
เครื่องยนต์ 2 ขนาด ให้ลูกค้าได้เลือกใช้งานตามความต้องการ ขนาด 2.4 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว แรงม้าสูงสุด 161 แรงม้า และเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว แรงม้าสูงสุด 144 แรงม้า
โดยเครื่องยนต์ทั้ง 2 รุ่น ติดตั้งระบบ CVVT (Continuously Variable Valve Timing) วาล์วควบคุมอากาศ แปรผันอัจฉริยะ ขับเคลื่อนด้วยโซ่ไทมิ่งทนทานตลอดอายุการใช้งาน ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างราบเรียบ เงียบ ให้แรงบิดและพลังแรงจัดในทุกรอบความเร็ว ด้วยการบังคับให้วาล์วทำงานเปิด-ปิดอย่างต่อเนื่อง แปรผันตามความต้องการอากาศของเครื่องยนต์ เติมไอดีอย่างเต็มที่เมื่อต้องการใช้พลังงานสูงสุดในช่วงความเร็วสูง และป้อนอากาศให้น้อยลงในช่วงรอบความเร็วต่ำ เพื่อการทำงานของเครื่องยนต์ที่ราบเรียบ แรงจัดในทุกรอบความเร็ว และใช้น้ำมันทุกหยดอย่างประหยัดและคุ้มค่าสูงสุด
ทำงานผสานลงตัวกับชุดเกียร์อัจฉริยะ iDMA (Intelligent Dual Mode Auto Transmission) ที่รวมเอาเทคโนโลยีเกียร์ออโตเมติกและเกียร์ธรรมดาให้มาอยู่ในระบบเดียวกัน เน้นความทันสมัยด้วยเกียร์ออโตเมติกแบบขั้นบันได ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเทคโนโลยี HIVEC ที่เรียนรู้พฤติกรรมการขับรถของผู้ขับขี่ คอมพิวเตอร์จะสั่งให้เกียร์ทำงานได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นตามรูปแบบการขับขี่ของแต่ละท่าน ขับสนุก เร่งแซงได้ทันใจ ตอบสนองทุกความต้องการของการขับขี่

โดยรวมแล้วไม่เพียงแต่ภายนอกเท่านั้น ทั้งรูปลักษณ์ สมรรถนะ ที่ถูกนำมาเป็นจุดเด่น และระบบความปลอดภัยรุ่นใหม่ ๆ ยังถูกนำมาใส่ไว้ใน "โซนาต้า" ให้อย่างเพียบพร้อม เห็นได้ว่านี่จะเป็นรถธงในการเปิดหน้าใหม่ของฮุนไดในประเทศไทย ส่วนด้านความประหยัดที่หลายคนรวมทั้งทีมงานอยากรู้ หรือตัวเลขทดสอบต่างๆ จะนำมาเสนอในบทต่อไป










รายละเอียดทางเทคนิค
เครื่องยนต์
ชนิดเครื่องยนต์ เบนซิน 2.0 ลิตร (DOHC) เบนซิน 2.4 ลิตร (DOHC)
ความจุกระบอกสูบ(ซีซี.) 1,975 2,359
ความกว้างกระบอกสูบXระยะชัก(มม.) 82.0X93.5 88.0X97.0
อัตราส่วนกำลังอัด
10:1 10:5
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) 144/6,000 161/6,000
แรงบิดสูงสุด (กก.ม./รอบต่อนาที) /4,500 /4,500
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) 70
ระบบขับเคลื่อน
ระบบเกียร์ ออโตเมติก

อัตราทดเกียร์ เกียร์ 1 2.842
เกียร์ 2 1.529
เกียร์ 3 1.000
เกียร์ 4 0.712
เกียร์ถอยหลัง 2.480
อัตราทดเฟืองท้าย 3.770
ระบบช่วงล่าง
หน้า อิสระดับเบิ้ลวิชโบน พร้อมเหล็กกันโครง
หลัง มัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโครง
ระบบควบคุมการขับขี่แบบ แร็คแอนด์พิเนียน
ระบบเบรก 2 วงจรไขว้ พร้อมระบบ ABS ระบบกระจายแรงเบรกEBD และวาล์วควบคุมแรงดัน
หน้า/หลัง
ดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อน/ดิสก์

รายการบล็อกของฉัน