เบื้องต้นข้อมูลรถใหม่ TOYOTA Mitsubishi Nissan Honda

murano nissan ยนตรกรรม SUV ใหม่จาก NISSAN

Review: 2009 Nissan Murano

murano nissan ยนตรกรรม SUV ใหม่จาก NISSAN
MURANO ยนตรกรรม SUV ใหม่จาก NISSAN
ความหรูหรา โฉบเฉี่ยว ที่พร้อมจะพาคุณไปในทุกเส้นทา
ยานยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยแนวทางวิศวกรรมยุคใหม่ กับการดีไซน์บนเส้นสายของตัวถังที่โค้งมน ซึ่งเป็นลักษณะที่อาจจะแปลกตาเมื่อเห็นในครั้งแรก แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือความท้าทายจากทุกสายตาที่แตกต่างจาก SUV รุ่นอื่นๆ ที่มักออกแบบด้วยเส้นสันแข็งกร้าว สะท้อนความแกร่งให้สมกับความหรูหราและลุยได้จริง ซึ่งต่างจาก NISSAN MURANO ที่คงความหรูหราไว้บนเส้นสายที่โค้งมน และยังคงลุยได้จริงเช่นกัน

ปราดเปรียว บนมิติตัวถังที่ใหญ่ ทันสมัยทุกเส้นสายของการออกแบบ
มิติตัวถังของ MURANO ที่ดูซ่อนรูปว่าเล็ก ด้วยการออกแบบและบริหารพื้นที่ให้ใช้งานคุ้มค่าที่สุด บนมิติรถที่มีขนาดความยาว 4,765 มม. ความกว้าง 1,880 มม. และความสูง 1,709 มม. บนฐานล้อหน้า-หลัง 2,824 มม. ซึ่งเป็นการออกแบบให้รถมีความปราดเปรียวทั้งที่ยังคงมิติตัวถังที่ใหญ่อย่างเหลือเชื่อ

รูปทรงภายนอกที่เริ่มด้วยฝากระโปรงหน้าที่ลาดเอียงขึ้นไปเกือบจะเป็นมุมต่อเนื่องกับกระจกหน้า เพิ่มความ หรูหราไว้กับกระจังหน้าอะลูมินัมที่ออกแบบเข้ากับไฟหน้าแบบทวินโปรเจ็กเตอร์ Bi-Xenon ที่สวยสะดุดตารับเข้า กับโครงสร้างตัวถังที่ออกแบบมาเสมือนไข่ จนมีค่า Drag Coefficient [cd] เพียง 0.39 และยังเน้นความปลอดภัย สูงสุดจากผนังตัวถังที่ลดมุมปะทะแบบ "Wraparound surface construction" หลังคาที่ติดตั้ง Glass Sunroof สามารถปรับเอียงและเลื่อนสไลด์ได้ถึง 5 ระดับ เพิ่มความโปร่งให้กับภายในรถ

Review: 2009 Nissan Murano

การออกแบบไฟท้ายที่โค้งรับกับเส้นตัวถัง และแยกไฟถอยไปไว้บริเวณกรอบป้ายทะเบียนท้าย เพิ่มความชัดเจน ก่อนจะจบลงด้วยปลายท่อไอเสียที่แยกออกมาจากหม้อพักใบใหญ่สู่ท้ายรถทั้ง 2 ข้างบริเวณท้ายรถ รับเข้ากับกันชนท้ายที่ออกแบบให้มีครีบจัดระเบียบลมที่ผ่านบริเวณใต้ท้องรถ ออกแบบมาได้อย่างลงตัว สวยงามแฝงความสปอร์ต


Dimensions Exterior
Length x Width x Height (mm) 4,770 x 1,880 x 1,685
Wheelbase (mm) 2,824
Track - front /Rear (mm) 1,620/1,620
Ground Clearance (mm) 180
Approach Angle (degrees) 28
Departure Angle (degrees) 23.6
Ramp Over Angle (degrees) 16.9


พกเทคโนโลยีมาเต็มที่ภายในรถ พร้อมความสะดวกสบายสูงสุด

เบาะนั่งหนังแท้ ที่ให้ความนุ่มสบายพร้อมความสะดวกสบายด้วยระบบปรับด้วยไฟฟ้า และที่เสริมรองรับใน ตำแหน่งกระดูกสันหลังเพื่อให้เหมาะสมกับทุกสรีระ ลดความเมื่อยล้าในการเดินทางเฉพาะตำแหน่งคนขับ แผงคอนโซลหน้า ที่ออกแบบด้วยวัสดุอะลูมินัมที่มากับระบบสารพัด เริ่มต้นกับชุดมาตรวัดที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายกับสปอร์ตของค่ายอย่าง 350Z ในแบบทรงกลม และพวงมาลัยทรง 3 ก้าน ที่มีระบบมัลติฟังก์ชัน ควบคุมการทำงานต่างๆ อย่างเช่น วิทยุ หรือ Cruise Control

บริเวณกลางคอนโซลโดดเด่นด้วยหน้าจอ LCD ขนาด 5.8 นิ้ว ที่คอยแสดงผลต่างๆ อาทิเช่น นาฬิกา ระยะทางเฉลี่ย พร้อมปุ่มควบคุมที่เรียงรายเต็มบริเวณคอนโซล และชุดเครื่องเสียงที่สามารถเล่นได้ทั้งเทปและซีดี รูปทรงที่ออกแบบ มาอย่างเรียบง่าย แต่ให้คุณภาพเสียงที่รับประกันด้วยชื่อ BOSE ถัดลงมาบริเวณใต้คอนโซลหน้า จะเป็นแผงควบคุมระบบการทำงานต่างๆ เช่น ระบบทำความร้อนเบาะคู่หน้า (ฮีทเตอร์) ปุ่มล็อกระบบเฟืองท้ายขับเคลื่อน 4 ล้อ และชุดปรับมุมมองกระจกข้างด้วยไฟฟ้า ระบบปรับอากาศที่ควบคุมอุณหภูมิภายในห้องโดยสารให้เย็นสบายตลอดการเดินทาง

เบาะนั่งตอนหลังที่ยังปรับและพับแยกกันอย่างอิสระ ในอัตราส่วน 60:40 ช่วยให้ MURANO เพิ่มเนื้อที่ได้อีกมากมายในการบรรทุกสัมภาระ และด้วยการออกแบบบริเวณของห้องเก็บสัมภาระที่เรียบง่ายนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไร แต่ต้องแปลกใจเมื่อเปิดมาดูบริเวณยางอะไหล่ เมื่อได้เห็นการออกแบบของตู้ซับวูฟเฟอร์ ที่ติดตั้งไว้ในยางอะไหล่ ประหยัดเนื้อที่ แถมยังให้มิติเสียงที่ดีอีกด้วย ฝากระโปรงท้ายที่ออกแบบมาอย่างโค้งมน รับกับท้ายรถเป็นอย่างดี


Dimensions Interior
Front Head Room (mm) 1,034
Front Leg Room (mm) 1,102
Rear Head Room (mm) 1,008
Rear Leg Room (mm) 917

เครื่องยนต์สายพันธุ์สปอร์ต 234 แรงม้า...แค่นี้พอมั้ย !!!



เครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร บล็อก VQ35DE ที่ได้พัฒนาต่อเนื่องยาวนานมากว่า 20 ปี ให้กำลังสูงถึง 234 แรงม้า/6,000 rpm พร้อมแรงบิดขนาด 318 นิวตัน - เมตร (32.4 กก.-ม.) ที่ 3,600 rpm ฝาสูบที่พัฒนาล้ำหน้ากับระบบท่อไอดี และระบบวาล์วแปรผัน พร้อมระบบจุดระเบิดแบบ Direct Ignition System นอกจากนั้นยังใช้ระบบการเร่งแบบ Drive By Wire

ระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ที่ทำงานด้วย Pulley ถึง 2 ตัว ขับด้วยสายพานโลหะคู่ แบบ 2 Modeเพื่อเล่นรอบแบบ 6 Speed Manual Shift และยังสบายแบบอัตโนมัติที่ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล ต่อเนื่อง ฉับไวตอบสนองให้ตัวถังที่หนักถึง 1.8 ตัน เคลื่อนตัวไปได้อย่างสะดวกสบาย

ระบบ All Wheels Drive หรือ AWD เริ่มทำงานตั้งแต่รถเคลื่อนตัว และปรับเปลี่ยนการส่งกำลังในรูปแบบ ที่แตกต่างกันในแต่ละล้อเพื่อการยึดเกาะที่ดีตลอดเวลา และเมื่อวิ่งบนทางเรียบด้วยความเร็วสูง ระบบ AWD ก็จะปรับสู่การขับเคลื่อนแบบธรรมดาเฉพาะล้อหน้า ที่ให้อัตราสิ้นเปลืองที่ต่ำ


Engine and Gearbox
Engine Code VQ35DE
Engine Layout 6 cylinders, 4 Valves per cylinder, Variable intake system
Bore / Stroke 95.5 x 81.4
Compression Ratio 10.3
Capacity 3,498
Power Output 172 k-w (234 ps) / 6,000 rpm
Torque 318 N-m / 3,600 rpm
Gearbox Details X-Tronic Continuously Variable Transmission
Drive System 4WD Full Time


ช่วงล่างคงสมรรถนะยอดเยี่ยม นุ่มนวล และมั่นใจทุกเส้นทาง

ระบบกันสะเทือนอิสระด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล่างแบบ Multi - link ที่ด้านหลังให้การยึดเกาะพร้อมซับแรงสะเทือนได้อย่างดี ระบบ VDC (Vehicle Dynamic Control) ที่ทำงานควบคู่ไป กับระบบ TCS - Traction Control System แม้โลดแล่นไปบนเส้นทางฝุ่นแบบแรลลี่ก็ยังควบคุมได้แม่นยำและทรงตัวได้อย่างดี

ระบบเบรกที่มั่นใจกับดิสก์เบรกหน้า-หลัง พร้อมครีบระบายความร้อน กับจานเบรกหน้าที่มีขนาดใหญ่ถึง 320 มิลลิเมตร และในคู่หลังขนาด 307 มิลลิเมตร ทำงานควบคู่กับระบบ EBD (Electronic Brake - force Distribution) ช่วยให้สยบความแรงของม้าทั้ง 234 ตัวได้อย่างไม่มีปัญหา


Wheels, Brakes and Steering
Front /Rear Brakes 320 mm /307 mm ventilated discs
Steering Type Engine speed-sensitive-power assisted rack and pinion steering
Front Suspension Independent strut suspension
Rear Suspension Multi-link independent suspension
Wheel size 18X7.5JJ ET+40
Tyre Size 225/65R18


ROAD TEST REPORT

ความรู้สึกแรกหลังจากก้าวขึ้นรถก็รู้สึกว่า เบาะนั่งเหมือนกับโซฟาที่บ้าน ให้ความนุ่มสบายดี ผสมผสานการออกแบบที่ดูหรูหรา ตำแหน่งปุ่มต่างๆ หรือมาตรวัดก็จัดวางไว้ในจุดที่ใช้งานง่าย และอ่านค่าสะดวก โดยเฉพาะปุ่มควบคุมวิทยุและ Cruise Control ที่ออกแบบมาในตำแหน่งที่ให้ความสะดวกสบายในการใช้งานอย่างดี

มุมมองจากตำแหน่งผู้ขับที่มองไปข้างหน้าจะรู้สึกว่าโปร่งโล่งสบาย ให้วิสัยทัศน์ที่ดี แต่เมื่อหันหลังกลับมามอง ด้านหลัง เมื่อจะต้องถอยรถเข้าที่จอด กระจกบานหลังในตอนท้ายที่ออกแบบเป็นทรงสามเหลี่ยมมาอย่างสวยงาม กลับเป็นจุดบอดในการขับขี่ที่ผู้ขับขี่ต้องมาปรับตัวอยู่บ้างเล็กน้อย

เครื่องยนต์ได้เค้นสมรรถนะกันบนเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ สู่เขาค้อ ในสภาพเส้นทางที่แตกต่างกัน พื้นทางเรียบ ฝุ่นลูกรัง ขึ้นทางชัน ลงเขา หรือแม้กระทั่งทางที่ลื่นเนื่องจากมีฝนตกก็ตาม ทางตรงที่ทำอัตราเร่งจากหยุดนิ่งผ่านความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ในเวลา 10.78 วินาที และพร้อมที่จะพาคุณทะยานสู่ความเร็วสูงสุดกว่า 200 กม./ชม. ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ถ้าคุณใจถึง!!! พร้อมกับรอบเครื่องที่ตีเข็มไปอยู่ที่ 6,500 รอบต่อนาที

สำหรับความแรงระดับ 234 แรงม้า ที่ทำความเร็วกว่า 200 กม./ชม. ยังสามารถให้ความประหยัดได้สูงสุดถึง 9.485 กม./ลิตร กับความเร็วเฉลี่ยที่ 100-120 กม./ชม. พร้อมโหลดภาระของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไว้ด้วย นอกจากทดสอบอัตราสิ้นเปลืองกับการเดินทางนอกเมืองแล้ว ครั้งนี้ยังได้มีโอกาสทดสอบอัตราสิ้นเปลืองของเจ้า MURANO ที่จะต้องรับภาระหนักกับการขับขี่ขึ้นเนิน พร้อมใช้เกียร์ต่ำเวลาลงทางชัน บนเส้นทางที่วิ่งอยู่บนเขาค้ออยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็มีอัตราสิ้นเปลือง เฉลี่ยที่ 6.850 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าประหยัดกว่าที่ทีมงานคาดไว้!

ระบบช่วงล่างที่ให้มาอย่างมั่นใจ กับระบบต่างๆ ที่ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างไม่เครียด แม้จะใช้ความเร็วในการ เข้าโค้งกว่า 100 กม./ชม. ก็ไม่มีอาการดีดดิ้น หรือความรู้สึกว่าจะหลุดออกไปจากถนนของรถให้หวาดเสียว แต่ความรู้สึกที่ผู้โดยสารภายในรถที่มักจะสไลด์ไปมาเวลาเข้าโค้งแรงๆ อาจจะมีอยู่บ่อยครั้ง เนื่องมาจากการออกแบบเบาะที่เน้นความสบาย มากกว่าที่จะเน้นความกระชับ ที่จะออกแบบให้เบาะมีปีกมาคอยโอบร่างกายไว้ไม่ให้ตัวหลุดจากเบาะเวลาเข้าโค้งแรงๆ

ระบบเบรกแบบจานเบรกทั้ง 4 ที่ไว้ใจได้ สามารถหยุดรถที่มาด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. ให้หยุดนิ่งภายในเวลาเพียง 3.44 วินาที ด้วยระยะทางแค่ 53.64 เมตร แม้สภาพถนนที่มีฝนกระหน่ำลงมา ระบบ ABS และ EBD ก็ให้การตอบสนองอย่างรวดเร็ว แม้ระยะเบรกจะเพิ่มขึ้นมา แต่ก็สามารถให้รถมีการควบคุมเป็นไปอย่างที่ผู้ขับขี่ต้องการ ในขณะที่มีการเบรกกะทันหัน

ระหว่างการขับขี่บนเขาค้อนั้น เป็นอีกจุดหนึ่งที่จะมาลองถึงกำลังเครื่องยนต์ในรูปแบบของ 4WD LOCK ซึ่งถือว่าเป็นการเข้าโหมดที่ง่ายมาก เพียงกดปุ่มเมื่อต้องการให้มีการล็อกระบบเฟืองท้ายให้เข้าสู่การขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ที่มีการกระจายกำลังระหว่าง 50:50 กับเส้นทางขึ้นเขาที่เป็นพื้นดินลูกรัง ถึงแม้ว่าจะไม่ชันนัก แต่ด้วยสภาพอากาศที่ย่ำแย่กับฝนฟ้าที่โปรยลงมาตลอดเวลา ทำให้รถที่มีกำลังสูงอย่าง MURANO นั้น ขึ้นได้แต่มีอาการหมุนฟรีของล้ออยู่บ้าง แต่เมื่อเข้าสู่โหมด 4WD LOCK แล้ว การกระจายกำลัง 50:50 สู่ล้อหน้าและหลัง กับการแตะคันเร่งเบาๆ ช่วยนั้น ให้การขับขี่ที่ง่ายขึ้นกว่าเดิม

ทั้งหมดนี้ เป็นการทดสอบสมรรถนะของ NISSAN MURANO ที่การันตีได้ว่าความหรู ยังคงลุยได้จริงและเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ยานยนต์สไตล์สปอร์ต แต่ยังคงหลงใหลกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่พร้อมจะพาคุณไปในทุกเส้นทางได้ดีกว่ารถเก๋งซีดานทั่วไปๆ


TEST DRIVE DATA
อัตราเร่งจากหยุดนิ่ง (เกียร์อัตโนมัติ "D")
ความเร็ว (กม./ชม.) เวลา (วินาที) ระยะทาง (ม.)
0-40 3.29 19.46
0-60 5.34 48.09
0-80 7.65 93.24
0-100 10.78 168.99
0-120 13.63 261.24


อัตราเร่งจากหยุดนิ่ง ตามระยะทาง
ระยะทาง (ม.) เวลา (วินาที) ความเร็ว (กม./ชม.)
0-402 (เกียร์อัตโนมัติ "D") 17.52 138.51
0-402 (โหมดชิฟท์เกียร์เอง "M") 17.07 140.35


ทดสอบระยะเบรก (บนถนนแห้ง)
ความเร็ว (กม./ชม.) เวลา (วินาที) ระยะทาง (ม.)
60-0 1.84 15.30
100-0 3.44 53.64


รอบเครื่องยนต์ในเกียร์สูงสุด ณ ความเร็วต่างๆ
ความเร็ว (กม./ชม.) รอบเครื่องยนต์ (รอบ/นาที)
80 1,100
100 1,500
120 1,900
140 2,100
160 2,500


รอบการทำงานเครื่องยนต์สูงสุดที่ 6,700 รอบ/นาที


รอบเครื่องยนต์ในเกียร์สูงสุด ณ ความเร็วต่างๆ
ความเร็ว (กม./ชม.) รอบเครื่องยนต์ (รอบ/นาที)
80 1,100
100 1,500
120 1,900
140 2,100
160 2,500


รอบเครื่องยนต์ในเกียร์สูงสุด ณ ความเร็วต่างๆ
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง กม./ลิตร
เฉลี่ยในเมือง 6.295
เฉลี่ยนอกเมือง (100-120 กม./ชม.) 9.485

รายการบล็อกของฉัน